เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมแต่งหน้ามาอย่างดีตอนเช้า แต่พอตกบ่ายหน้ากลับหมองคล้ำ รองพื้นเป็นคราบ แถมรูขุมขนก็ดูกว้างจนน่าตกใจ? ปัญหาเหล่านี้อาจไม่ได้เกิดจากรองพื้นหรือแป้งเสมอไป แต่อาจเป็นเพราะคุณข้ามขั้นตอนสำคัญอย่าง “การลงไพรเมอร์” ไปนั่นเองค่ะ ไพรเมอร์เปรียบเสมือนเวทมนตร์ที่ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับการแต่งหน้า ช่วยเบลอรูขุมขน ควบคุมความมัน และที่สำคัญคือช่วยล็อกเมคอัพให้ติดทนนานตลอดวัน แต่คำถามที่หลายคนยังคาใจก็คือ แล้วจะเลือก ไพรเมอร์ ยี่ห้อไหนดี ที่จะตอบโจทย์ผิวของเราได้มากที่สุด? บทความนี้ soodd.com ได้รวบรวมทุกคำตอบมาให้คุณแล้วค่ะ เราจะพาไปเจาะลึกตั้งแต่ไพรเมอร์คืออะไร, วิธีเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว, พร้อมเปิดกรุรีวิว 10 ไพรเมอร์ตัวท็อปที่ใช้แล้วผิวสวยจึ้ง ติดทนตลอดวันแน่นอน ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย!
ไพรเมอร์คืออะไร? ทำไมถึงเป็นไอเทมที่เมคอัพอาร์ติสต์ขาดไม่ได้
หากจะเปรียบเทียบการแต่งหน้าเป็นการวาดภาพบนผืนผ้าใบ “ไพรเมอร์” ก็คือการเตรียมผืนผ้าใบให้เรียบเนียนพร้อมสำหรับการลงสีนั่นเองค่ะ ไพรเมอร์ (Primer) คือผลิตภัณฑ์เมคอัพที่ใช้ลงเป็นขั้นตอนแรกหลังจากการบำรุงผิวและก่อนลงรองพื้น มีหน้าที่หลักในการสร้างชั้นฟิล์มบางๆ เคลือบผิวไว้ เพื่อช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน, เติมเต็มร่องริ้วรอยและรูขุมขนให้ดูตื้นขึ้น, และช่วยให้เครื่องสำอางที่เราจะลงในขั้นตอนต่อไปยึดเกาะกับผิวได้ดีและยาวนานยิ่งขึ้น พูดง่ายๆ ก็คือ ไพรเมอร์ทำหน้าที่เป็นเหมือน “กาวสองหน้า” ระหว่างสกินแคร์และเมคอัพนั่นเองค่ะ
สาเหตุที่ไพรเมอร์กลายเป็นไอเทมชิ้นสำคัญที่ช่างแต่งหน้ามืออาชีพและบิวตี้กูรูต่างยกให้เป็นของที่ต้องมี ก็เพราะคุณประโยชน์ที่หลากหลายของมัน ไม่ว่าจะเป็น:
- ช่วยให้เมคอัพติดทนนาน: นี่คือคุณสมบัติเด่นที่สุดของไพรเมอร์ การสร้างชั้นเคลือบผิวช่วยป้องกันไม่ให้เหงื่อหรือน้ำมันจากผิวซึมออกมาทำลายรองพื้น ทำให้เมคอัพไม่ไหลเยิ้มหรือเป็นคราบระหว่างวัน
- เบลอรูขุมขนและริ้วรอย: ไพรเมอร์ที่มีส่วนผสมของซิลิโคนจะช่วยเข้าไปเติมเต็มร่องผิวและรูขุมขน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นทันทีที่ใช้ เหมือนใส่ฟิลเตอร์ให้ผิว
- ควบคุมความมัน: สำหรับคนผิวมัน ไพรเมอร์คุมมัน (Mattifying Primer) คือผู้ช่วยชีวิตเลยค่ะ เพราะจะช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้า ทำให้หน้าไม่มันวาวระหว่างวัน
- ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ: ไพรเมอร์บางชนิดมีสีต่างๆ เพื่อช่วยแก้ปัญหาสีผิว เช่น สีเขียวช่วยลดรอยแดง, สีม่วงช่วยปรับผิวที่ดูเหลืองให้สว่างขึ้น
- เพิ่มความชุ่มชื้นและผิวโกลว์: สำหรับคนผิวแห้ง ไพรเมอร์ที่มีส่วนผสมของสารบำรุงจะช่วยเติมความชุ่มชื้น ทำให้ลงรองพื้นได้ง่ายขึ้น ไม่เป็นขุย และยังช่วยให้ผิวดูโกลว์สวยสุขภาพดีอีกด้วย
รู้จักประเภทของไพรเมอร์: เลือกยังไงให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณ?
การเลือกไพรเมอร์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั้น หัวใจสำคัญคือการเลือกให้ตรงกับสภาพผิวและปัญหาผิวที่เราต้องการแก้ไขค่ะ การใช้ไพรเมอร์ผิดประเภทอาจไม่ช่วยอะไรเลย แถมยังอาจทำให้ปัญหาผิวแย่ลงได้อีกด้วย ดังนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่าผิวแบบไหนควรใช้ไพรเมอร์ประเภทใด
สำหรับคนผิวมันและผิวผสม (Oily/Combination Skin)
ปัญหาหลัก: หน้ามันเยิ้มระหว่างวัน, รูขุมขนกว้าง, เมคอัพหลุดง่าย
ไพรเมอร์ที่ควรเลือก: มองหาไพรเมอร์ที่ระบุว่า “Mattifying”, “Oil-Control”, “Pore-Minimizing” หรือ “Oil-Free” ไพรเมอร์ประเภทนี้มักมีซิลิโคนเป็นส่วนประกอบหลักเพื่อช่วยเบลอรูขุมขนและสร้างฟินิชผิวแบบแมตต์ และมีส่วนผสมที่ช่วยดูดซับความมัน เช่น ซิลิกา (Silica) หรือดินขาว (Kaolin Clay) เพื่อควบคุมความมันวาวตลอดวัน ทำให้รองพื้นติดทน ไม่ไหลเยิ้ม
สำหรับคนผิวแห้ง (Dry Skin)
ปัญหาหลัก: ผิวขาดน้ำ, แห้งเป็นขุย, แต่งหน้าไม่ติด, ผิวดูไม่มีชีวิตชีวา
ไพรเมอร์ที่ควรเลือก: ควรเลือกไพรเมอร์ที่เน้นการเติมความชุ่มชื้นเป็นหลัก มองหาคำว่า “Hydrating”, “Luminous”, “Dewy” หรือ “Radiant” บนผลิตภัณฑ์ ไพรเมอร์เหล่านี้มักมีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid), กลีเซอรีน (Glycerin) หรือวิตามินต่างๆ ที่จะช่วยเตรียมผิวให้นุ่มชุ่มชื้น ทำให้ลงรองพื้นได้เรียบเนียน ไม่เป็นคราบหรือตกร่อง และยังช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ สุขภาพดีจากภายใน
สำหรับคนผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin)
ปัญหาหลัก: ผิวระคายเคืองง่าย, เกิดรอยแดงหรือผดผื่นได้ง่าย
ไพรเมอร์ที่ควรเลือก: ความอ่อนโยนคือสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ ควรมองหาไพรเมอร์ที่ปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น “Fragrance-Free” (ไม่มีน้ำหอม), “Alcohol-Free” (ไม่มีแอลกอฮอล์), “Paraben-Free” และ “Non-Comedogenic” (ไม่ทำให้อุดตัน) ไพรเมอร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติหรือสารสกัดที่ช่วยปลอบประโลมผิว เช่น คาโมมายล์, ว่านหางจระเข้, หรือชาเขียว ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมค่ะ
วิธีลงไพรเมอร์ที่ถูกต้อง ให้ผิวสวยเนียนกริบ ไม่เป็นคราบ
มีไพรเมอร์ดีๆ แล้ว แต่ถ้าลงผิดวิธีก็อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการนะคะ การลงไพรเมอร์อย่างถูกวิธีจะช่วยเสริมประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด มาดูขั้นตอนง่ายๆ ที่จะเปลี่ยนผิวของคุณให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้ากันค่ะ
- เตรียมผิวให้สะอาด: เริ่มจากการล้างหน้าให้สะอาดและลงสกินแคร์บำรุงผิวตามปกติ (โทนเนอร์, เซรั่ม, มอยส์เจอร์ไรเซอร์) และที่สำคัญที่สุดคือครีมกันแดด
- รอให้สกินแคร์เซตตัว: นี่คือขั้นตอนที่หลายคนมองข้าม! หลังจากลงสกินแคร์และครีมกันแดดแล้ว ควรรอสัก 3-5 นาทีเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิวจนหมดก่อน การลงไพรเมอร์ทับลงบนผิวที่ยังเปียกชื้นจะทำให้ทุกอย่างปนกันและอาจเกิดเป็นคราบขุยได้
- ใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ: บีบไพรเมอร์ออกมาในปริมาณเท่า “เมล็ดถั่ว” ก็เพียงพอสำหรับทั่วใบหน้า การใช้เยอะเกินไปอาจทำให้หน้าดูหนาและรองพื้นไหลได้
- วอร์มผลิตภัณฑ์ก่อนลง: ใช้นิ้วมือวอร์มเนื้อไพรเมอร์เล็กน้อย จะช่วยให้เนื้อผลิตภัณฑ์เกลี่ยง่ายและเนียนไปกับผิวมากขึ้น
- เริ่มลงจากกึ่งกลางใบหน้า: ใช้นิ้วมือค่อยๆ แตะและเกลี่ยไพรเมอร์จากบริเวณกึ่งกลางใบหน้า (เช่น หน้าผาก, จมูก, คาง ซึ่งเป็นบริเวณที่มักมีรูขุมขนกว้างและความมัน) แล้วค่อยๆ เกลี่ยออกไปด้านนอกกรอบหน้าอย่างเบามือ
- รออีกครั้ง: หลังจากลงไพรเมอร์เสร็จแล้ว ให้รออีกประมาณ 1-2 นาทีเพื่อให้ไพรเมอร์เซตตัวสร้างชั้นฟิล์มบนผิวก่อนที่จะลงรองพื้นในขั้นตอนต่อไป การให้เวลาไพรเมอร์ได้ทำงานจะช่วยให้ผลลัพธ์การแต่งหน้าของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด
เปิดกรุ! รีวิว 10 ไพรเมอร์ ยี่ห้อไหนดี ที่ต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้ง ปี 2024
มาถึงส่วนที่ทุกคนรอคอยกันแล้ว! เราได้คัดสรร 10 สุดยอดไพรเมอร์ที่ได้รับความนิยมและเสียงตอบรับดีเยี่ยมจากทั่วโลก ครอบคลุมทุกสภาพผิวและทุกความต้องการ มาดูกันว่าจะมี ไพรเมอร์ ยี่ห้อไหนดี ที่ถูกใจคุณบ้าง
1. Hourglass Veil Mineral Primer
ยกให้เป็นราชาแห่งไพรเมอร์ที่ครองใจใครหลายคน สำหรับ Hourglass Veil Mineral Primer ตัวนี้โดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบาเหมือนอากาศ เกลี่ยง่ายและซึมซาบเร็ว มอบฟินิชผิวแบบ Satin-Matte ที่ดูนวลเนียนเป็นธรรมชาติ ไม่แห้งจนเกินไป ความดีงามของเขาคือความสามารถในการเบลอรูขุมขนและริ้วรอยต่างๆ ได้อย่างแนบเนียน พร้อมปรับสภาพผิวให้ดูสว่างกระจ่างใสขึ้นทันทีที่ใช้ ช่วยควบคุมความมันได้ดีในระดับหนึ่ง แต่จุดแข็งที่สุดคือการทำให้รองพื้นและเมคอัพโดยรวมติดทนนานแบบข้ามวันข้ามคืน ผิวจะยังคงดูสวยเป๊ะแม้ผ่านไปหลายชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติกันน้ำ กันเหงื่อ และมี SPF 15 ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดอีกชั้นหนึ่ง แม้ราคาจะสูง แต่คุณภาพที่ได้กลับมานั้นคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวผสมถึงผิวมันที่ต้องการความติดทนและผิวที่ดูเรียบเนียนไร้ที่ติ
คุณสมบัติเด่น
- เนื้อสัมผัสบางเบาดุจอากาศ (Airy Texture) เกลี่ยง่าย ไม่หนักผิว
- เบลอรูขุมขนและริ้วรอยได้อย่างดีเยี่ยม สร้างผิวที่ดูเรียบเนียน
- ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานเป็นพิเศษ กันน้ำและกันเหงื่อ
- ปราศจากน้ำมัน (Oil-Free) พาราเบน และซัลเฟต
- มีส่วนผสมของ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide (SPF 15) ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV
2. Benefit The POREfessional Face Primer
หากพูดถึงไพรเมอร์เบลอรูขุมขน ชื่อของ Benefit The POREfessional ต้องขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆ อย่างแน่นอน นี่คือไพรเมอร์เนื้อบาล์มซิลิโคนที่โด่งดังในเรื่องการอำพรางรูขุมขนและเส้นริ้วรอยเล็กๆ ให้ผิวดูเรียบเนียนกริบในทันที เนื้อผลิตภัณฑ์เนียนนุ่มเหมือนใยไหม เกลี่ยง่าย และให้ความรู้สึกบางเบาบนผิว ช่วยสร้างผิวที่สมบูรณ์แบบเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการลงรองพื้น ทำให้เกลี่ยรองพื้นได้ง่ายขึ้นและดูเนียนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมความมันส่วนเกินได้ดี ทำให้เมคอัพติดทน ไม่มันเยิ้มระหว่างวัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้างและผิวมันหรือผิวผสม สามารถใช้ทาเดี่ยวๆ ในวันที่ไม่แต่งหน้าเพื่อผิวที่ดูเนียนขึ้น หรือใช้ทาทับเมคอัพระหว่างวันเพื่อควบคุมความมันก็ได้เช่นกัน ถือเป็นไพรเมอร์สามัญประจำบ้านที่หลายคนต้องมีติดไว้
คุณสมบัติเด่น
- สุดยอดไพรเมอร์เบลอรูขุมขน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนทันทีที่ใช้
- เนื้อบาล์มบางเบา (Silky, Lightweight Balm) ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- ควบคุมความมันได้ดี ช่วยให้เมคอัพติดทนนาน
- มีส่วนผสมของวิตามินอี (Vitamin E) ที่ช่วยบำรุงและปกป้องผิว
- สูตร Oil-Free ปราศจากน้ำมัน
3. Laura Mercier Pure Canvas Primer – Blurring
สำหรับใครที่มองหาไพรเมอร์ซิลิโคนเบสที่ให้ผลลัพธ์การเบลอผิวแต่ยังคงความรู้สึกสบายผิว ต้องลอง Laura Mercier Pure Canvas Primer สูตร Blurring ตัวนี้เป็นไพรเมอร์ที่พัฒนามาเพื่อสร้างผิวสวยสมบูรณ์แบบ ด้วยเทคโนโลยี Blurring Powders ที่ช่วยกระจายแสงและอำพรางรูขุมขนและจุดบกพร่องต่างๆ บนใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ มอบฟินิชผิวแบบซอฟต์แมตต์ (Soft-Matte) ที่ไม่ดูแห้งด้าน แต่ยังคงดูเป็นผิวสุขภาพดี เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ซึมไว และไม่ทิ้งความมันวาว ที่สำคัญคือเป็นสูตร Water-Based ที่ปราศจากซิลิโคน ทำให้รู้สึกเบาสบายผิว ไม่อุดตันรูขุมขน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมันและผิวผสมที่ต้องการควบคุมความมันและเบลอผิวไปพร้อมๆ กัน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่ต้องการงานผิวเนียนกริบแต่ยังดูเป็นธรรมชาติ
คุณสมบัติเด่น
- เทคโนโลยี Microalgae และ Blurring Powders ช่วยเบลอรูขุมขนและดูดซับความมัน
- มอบฟินิชผิวแบบ Soft-Matte เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ
- สูตร Water-Based ปราศจากซิลิโคน (Silicone-Free) ทำให้เบาสบายผิว
- ช่วยให้เมคอัพติดทนและควบคุมความมันวาว
- เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวธรรมดาถึงผิวมัน
4. Fenty Beauty Pro Filt’r Instant Retouch Primer
ไพรเมอร์ตัวดังจากแบรนด์ของคุณแม่ Rihanna ที่ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับรองพื้น Pro Filt’r ได้อย่างสมบูรณ์แบบ Fenty Beauty Pro Filt’r Instant Retouch Primer เป็นไพรเมอร์ที่ตอบโจทย์หลากหลายปัญหาผิวในขวดเดียว เนื้อสัมผัสเป็นครีมกึ่งเจลสีชมพูอ่อนๆ ที่เกลี่ยแล้วจะกลืนไปกับผิว ช่วยปรับผิวให้ดูสว่างและสดใสขึ้นเล็กน้อย จุดเด่นคือเทคโนโลยี Invisipink™ ที่ช่วยกรองผิว (Filter) ให้ดูเรียบเนียน เบลอรูขุมขนได้ดี และช่วยควบคุมความมันเงา แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงให้ความชุ่มชื้น ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ทำให้ผิวดูสมดุลและพร้อมสำหรับการแต่งหน้า ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่ดูแมตต์แต่ไม่แบน เมคอัพติดทนนานตลอดวัน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว ตั้งแต่ผิวธรรมดา ผิวผสม ไปจนถึงผิวมัน เป็นไพรเมอร์ที่ใช้งานง่ายและให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ
คุณสมบัติเด่น
- ช่วยเบลอรูขุมขนและริ้วรอยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- ควบคุมความมัน แต่ยังคงความชุ่มชื้นให้ผิวดูสมดุล
- เนื้อสัมผัสบางเบา สบายผิว ไม่ทำให้รู้สึกหนักหน้า
- เทคโนโลยี Invisipink™ ช่วยปรับผิวให้ดูสว่างสดใส
- สูตร Oil-Free และ Cruelty-Free
5. Bobbi Brown Vitamin Enriched Face Base
นี่ไม่ใช่แค่ไพรเมอร์ แต่เป็น “ไพรเมอร์และมอยส์เจอร์ไรเซอร์” ในกระปุกเดียว Bobbi Brown Vitamin Enriched Face Base คือไอเทมระดับตำนานที่ช่างแต่งหน้าและบิวตี้บล็อกเกอร์ทั่วโลกต่างหลงรัก เนื้อครีมเข้มข้นแต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบเร็ว มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเกรปฟรุตและเจอเรเนียมที่ให้ความรู้สึกสดชื่น ผสานคุณค่าการบำรุงจากวิตามิน B, C, และ E ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก ทำให้ผิวที่แห้งกร้านกลับมานุ่มฟู อิ่มน้ำ และดูสุขภาพดีในทันที นอกจากนี้ยังมี Shea Butter และ Hyaluronic Acid ช่วยล็อกความชุ่มชื้นไว้ในผิว เมื่อใช้เป็นเบสก่อนแต่งหน้า จะช่วยให้ลงรองพื้นได้เรียบเนียนขึ้นมาก ไม่เป็นขุยหรือเป็นคราบ และช่วยให้เมคอัพติดทน ผิวดูโกลว์สวยตลอดวัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง หรือใครก็ตามที่ต้องการเตรียมผิวให้ชุ่มชื้นขั้นสุด
คุณสมบัติเด่น
- เป็นทั้งมอยส์เจอร์ไรเซอร์และไพรเมอร์ในหนึ่งเดียว (2-in-1)
- อุดมด้วยวิตามิน B, C, E, Shea Butter และ Hyaluronic Acid บำรุงผิวอย่างล้ำลึก
- เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มฟู ลดปัญหาการแต่งหน้าไม่ติดหรือเป็นขุย
- เนื้อครีมเข้มข้นแต่ซึมไว ไม่ทิ้งความมัน
- สูตร Oil-Free และผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง
6. Dior Forever Glow Veil Primer
สำหรับสาวๆ ที่ใฝ่ฝันอยากมีผิวโกลว์สวยสุขภาพดีแบบ “Glass Skin” ต้องไม่พลาด Dior Forever Glow Veil Primer ตัวนี้คือไพรเมอร์เพื่อผิวกระจ่างใสโดยเฉพาะ เนื้อสัมผัสเป็นฟลูอิดบางเบาที่อุดมไปด้วยเซรั่มดอกไม้และกรดไฮยาลูรอนิก ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเต็มเปี่ยมตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมด้วยเม็ดสีมุกที่ช่วยกระจายแสง ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง สว่างใส และโกลว์สวยจากภายในทันทีที่ใช้ เมื่อลงรองพื้นทับจะยิ่งขับให้ผิวดูสวยมีมิติ ไม่ดูแบนหรือแห้งกร้าน ช่วยให้เมคอัพติดทนและยังคงความฉ่ำวาวไว้ได้ตลอดวัน เหมาะสำหรับคนผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง หรือใครที่ต้องการฟินิชลุคแบบผิวฉ่ำวาว สุขภาพดี เป็นไพรเมอร์ที่ช่วยยกระดับงานผิวให้ดูหรูหราและสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
คุณสมบัติเด่น
- มอบความโกลว์กระจ่างใสให้ผิวดูเปล่งปลั่ง สุขภาพดี
- ให้ความชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง ด้วยส่วนผสมของ Hyaluronic Acid
- อุดมด้วยสารสกัดจากดอกไอริสและดอกแพนซีป่า ช่วยบำรุงผิว
- เนื้อฟลูอิดบางเบา สบายผิว ไม่เหนอะหนะ
- สูตร Non-comedogenic ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
7. YSL Touche Éclat Blur Primer
ไพรเมอร์ขวดแก้วสีทองสุดหรูจาก YSL ที่ไม่ได้มีดีแค่แพ็กเกจจิ้ง แต่คุณภาพข้างในก็เลิศไม่แพ้กัน Touche Éclat Blur Primer เป็นไพรเมอร์เนื้อเจลใสที่มีเกล็ดชิมเมอร์สีทองละเอียดผสมอยู่ เมื่อเกลี่ยลงบนผิวแล้วชิมเมอร์จะแตกตัวและกลืนไปกับผิว ช่วยกระจายแสงและเบลอรูขุมขนได้อย่างน่าทึ่ง ทำให้ผิวดูสว่าง โกลว์สวย และเรียบเนียนขึ้นในทันที เนื้อเจลซิลิโคนบางเบา ช่วยเติมเต็มร่องผิวและควบคุมความมันได้ดีในระดับหนึ่ง ทำให้ผิวดูแมตต์แต่ไม่แห้ง ยังคงความเปล่งปลั่งเอาไว้ เป็นการสร้างผิวที่สมดุลระหว่างความแมตต์และความโกลว์ได้อย่างลงตัว ช่วยให้รองพื้นเกลี่ยง่ายขึ้นและติดทนนานตลอดวัน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนที่ต้องการเบลอผิวพร้อมกับเพิ่มความกระจ่างใสไปในตัว
คุณสมบัติเด่น
- มีเกล็ดชิมเมอร์สีทอง ช่วยกระจายแสงให้ผิวดูโกลว์สวย
- ช่วยเบลอรูขุมขนและริ้วรอย ทำให้ผิวดูเรียบเนียน
- เนื้อเจลใสบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ
- ช่วยควบคุมความมันและทำให้เมคอัพติดทนนาน
- สามารถใช้เดี่ยวๆ เพื่อผิวที่ดูสว่างและเรียบเนียนได้
8. Rare Beauty Pore Diffusing Primer
ไพรเมอร์จากแบรนด์ของ Selena Gomez ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างผิวสวยสมบูรณ์แบบและเบาสบาย Rare Beauty Pore Diffusing Primer เป็นไพรเมอร์เนื้อเจลครีมที่ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นเมื่อสัมผัสกับผิว อุดมไปด้วยส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิว เช่น กรดไฮยาลูรอนิก, สารสกัดจากชาเขียว และวิตามินอี ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและเรียบเนียน จุดเด่นคือความสามารถในการเบลอรูขุมขนและริ้วรอยต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมทั้งช่วยควบคุมความมันเงา ทำให้ผิวดูแมตต์แต่ยังคงความชุ่มชื้นไว้ ไม่ทำให้หน้าแห้งตึง เป็นไพรเมอร์ที่ช่วยให้เมคอัพติดทนและดูสวยเนียนตลอดวัน เหมาะสำหรับผิวธรรมดา ผิวผสม และผิวมันที่ต้องการไพรเมอร์ที่ทั้งเบลอผิว คุมมัน และบำรุงไปในตัว
คุณสมบัติเด่น
- เบลอรูขุมขนและริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เนื้อเจลครีมให้ความรู้สึกเย็นสบายผิว
- ควบคุมความมัน แต่ยังคงความชุ่มชื้นด้วย Hyaluronic Acid
- ช่วยให้เมคอัพเรียบเนียนและติดทนนาน
- Vegan และ Cruelty-Free
9. NARS Radiance Primer SPF 35/PA+++
อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับสายผิวโกลว์ NARS Radiance Primer เป็นไพรเมอร์ที่เน้นการปรับผิวให้ดูสว่างกระจ่างใสและมีชีวิตชีวาขึ้นทันที เนื้อครีมสีชมพูอ่อนๆ มีส่วนผสมของ Radiance Boosting Complex ที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่ดูหมองคล้ำและเหนื่อยล้าให้กลับมาสดใส พร้อมด้วยเม็ดไข่มุกละเอียดที่ช่วยสะท้อนแสง ทำให้ผิวดูเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นและช่วยให้รองพื้นติดทนได้ดี ที่สำคัญคือมีค่า SPF 35/PA+++ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง หรือใครก็ตามที่ต้องการปลุกผิวให้ตื่นและดูสดใสในวันที่ผิวดูโทรม เป็นไพรเมอร์ที่ช่วยสร้างงานผิวสวยสุขภาพดีและป้องกันแดดได้ในขั้นตอนเดียว
คุณสมบัติเด่น
- มอบความกระจ่างใสและเปล่งประกายให้ผิวทันทีที่ใช้
- มีค่าการป้องกันแสงแดดสูง SPF 35/PA+++
- Radiance Boosting Complex ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ
- ช่วยให้ผิวเรียบเนียนและเมคอัพติดทน
- สูตร Oil-Free ปราศจากน้ำมัน
10. e.l.f. Poreless Putty Primer
ปิดท้ายด้วยไพรเมอร์ราคาน่ารักแต่คุณภาพคับแก้วที่ถูกขนานนามว่าเป็น Dupe ของแบรนด์ดังหลายตัว e.l.f. Poreless Putty Primer คือไพรเมอร์เนื้อบาล์ม (Putty) ที่โดดเด่นในเรื่องการเบลอรูขุมขนและสร้างผิวที่เรียบเนียนไร้ที่ติ เนื้อสัมผัสเนียนนุ่มดุจกำมะหยี่ เมื่อวอร์มบนนิ้วมือแล้วเกลี่ยลงบนผิวจะช่วยเติมเต็มรูขุมขนและริ้วรอยเล็กๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ผิวดูเนียนกริบเหมือนใส่ฟิลเตอร์ มีส่วนผสมของสควาเลน (Squalane) ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและล็อกความชุ่มชื้นไว้ในผิว ทำให้เมคอัพติดทนนาน ไม่เป็นคราบ และไม่ทำให้ผิวแห้งระหว่างวัน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้างและต้องการงานผิวที่เรียบเนียนเป็นพิเศษในราคาที่เข้าถึงได้
คุณสมบัติเด่น
- เบลอรูขุมขนได้อย่างไร้ที่ติ สร้างผิวที่ดูเรียบเนียน (Poreless Finish)
- เนื้อบาล์มกำมะหยี่ เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ
- มีส่วนผสมของ Squalane ช่วยให้ความชุ่มชื้น
- ช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานตลอดวัน
- Vegan, Cruelty-Free และราคาย่อมเยา
ตารางเปรียบเทียบ 10 ไพรเมอร์ ยี่ห้อไหนดี
| ยี่ห้อ (Brand) | เหมาะกับสภาพผิว | คุณสมบัติเด่น | เนื้อสัมผัส |
|---|---|---|---|
| Hourglass Veil Mineral Primer | ทุกสภาพผิว, ผิวผสม-มัน | ติดทนสูงสุด, เบลอผิว, กันน้ำ | ครีมบางเบา |
| Benefit The POREfessional | ผิวผสม-มัน, รูขุมขนกว้าง | เบลอรูขุมขน, คุมมัน | บาล์มซิลิโคน |
| Laura Mercier Blurring Primer | ผิวธรรมดา-มัน | เบลอผิว, คุมมัน, Silicone-Free | ครีม |
| Fenty Beauty Pro Filt’r Primer | ผิวธรรมดา-มัน | เบลอผิว, คุมมันแต่ชุ่มชื้น | ครีมกึ่งเจล |
| Bobbi Brown Vitamin Enriched Face Base | ผิวธรรมดา-แห้ง | บำรุงผิวชุ่มชื้น, เป็น 2-in-1 | ครีมเข้มข้น |
| Dior Forever Glow Veil Primer | ผิวธรรมดา-แห้ง | ผิวโกลว์สวย, ชุ่มชื้นยาวนาน | ฟลูอิด |
| YSL Touche Éclat Blur Primer | ทุกสภาพผิว | เบลอผิวพร้อมให้ความโกลว์ | เจลใสมีชิมเมอร์ |
| Rare Beauty Pore Diffusing Primer | ผิวธรรมดา-มัน | เบลอรูขุมขน, คุมมัน, สบายผิว | เจลครีม |
| NARS Radiance Primer SPF 35 | ผิวธรรมดา-แห้ง | ผิวโกลว์กระจ่างใส, กันแดดสูง | ครีม |
| e.l.f. Poreless Putty Primer | ทุกสภาพผิว, รูขุมขนกว้าง | เบลอรูขุมขนขั้นสุด, ราคาดี | บาล์ม (Putty) |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. ลงไพรเมอร์แล้วต้องลงกันแดดตอนไหน?
คำตอบ: ควรลงครีมกันแดด ก่อน ลงไพรเมอร์เสมอค่ะ ลำดับที่ถูกต้องคือ: สกินแคร์ > ครีมกันแดด > (รอให้เซตตัว) > ไพรเมอร์ > รองพื้น เพราะครีมกันแดดจำเป็นต้องสัมผัสกับผิวโดยตรงเพื่อประสิทธิภาพการป้องกันสูงสุด การลงไพรเมอร์ก่อนจะเป็นการสร้างชั้นฟิล์มขวางกั้น ทำให้กันแดดทำงานได้ไม่เต็มที่
2. ไพรเมอร์ทำให้สิวอุดตันจริงไหม?
คำตอบ: ไพรเมอร์อาจทำให้เกิดการอุดตันได้หากเลือกใช้ไม่เหมาะกับสภาพผิวหรือทำความสะอาดไม่หมดจดค่ะ โดยเฉพาะไพรเมอร์ที่มีซิลิโคนเป็นส่วนประกอบหลัก หากคุณมีแนวโน้มอุดตันง่าย ควรมองหาสูตร “Non-Comedogenic” และที่สำคัญที่สุดคือต้องใช้คลีนซิ่งออยล์หรือบาล์มในการทำความสะอาดเครื่องสำอางทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไพรเมอร์และเมคอัพถูกล้างออกไปจนหมดจด
3. ไพรเมอร์จำเป็นต้องใช้ทุกวันไหม?
คำตอบ: ไม่จำเป็นค่ะ การใช้ไพรเมอร์ขึ้นอยู่กับความต้องการและโอกาส หากเป็นวันสบายๆ ที่ไม่ได้ต้องการความติดทนเป็นพิเศษ หรือไม่ได้มีปัญหาผิวที่ต้องการปกปิด การข้ามขั้นตอนไพรเมอร์ไปก็ไม่เป็นไร แต่สำหรับวันสำคัญที่ต้องการให้เมคอัพสวยเป๊ะตลอดวัน เช่น วันรับปริญญา, งานแต่งงาน, หรือวันที่ต้องออกงานทั้งวัน การใช้ไพรเมอร์จะช่วยสร้างความแตกต่างได้อย่างเห็นได้ชัด
4. ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์แทนไพรเมอร์ได้หรือไม่?
คำตอบ: แม้ว่ามอยส์เจอร์ไรเซอร์จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและทำให้ลงรองพื้นง่ายขึ้น (ซึ่งเป็นคุณสมบัติบางส่วนของไพรเมอร์) แต่มันไม่สามารถทำหน้าที่เฉพาะทางอื่นๆ ของไพรเมอร์ได้ เช่น การเบลอรูขุมขน, การควบคุมความมันอย่างมีประสิทธิภาพ, หรือการยืดอายุให้เครื่องสำอางติดทนนานเป็นพิเศษ ดังนั้น หากคุณต้องการผลลัพธ์เหล่านั้น การใช้ไพรเมอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะจะให้ผลที่ดีกว่าค่ะ
บทสรุป
การเลือก ไพรเมอร์ ยี่ห้อไหนดี ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเมื่อเราเข้าใจถึงความต้องการของผิวตัวเองอย่างถ่องแท้ ไพรเมอร์ไม่ได้เป็นเพียงขั้นตอนที่ฟุ่มเฟือย แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยยกระดับการแต่งหน้าของคุณให้สวยเนียนและติดทนนานขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าคุณจะมีผิวมันที่ต้องการการควบคุมความมัน, ผิวแห้งที่โหยหาความชุ่มชื้นและผิวโกลว์, หรือมีปัญหารูขุมขนที่อยากจะอำพราง ก็มีไพรเมอร์ที่พร้อมจะตอบโจทย์คุณเสมอ หวังว่าข้อมูลและรีวิวทั้ง 10 ยี่ห้อในบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณค้นพบไพรเมอร์คู่ใจ ที่จะมาเป็นผู้ช่วยเนรมิตงานผิวสวยจึ้งได้ในทุกๆ วันนะคะ
Image by: YI REN
https://www.pexels.com/@yi-ren-57040649
