Home » 10 เครื่องเลเซอร์กำจัดขน IPL ยี่ห้อไหนดี 2025 ทำเองที่บ้านได้ผลเหมือนคลินิก
Posted in

10 เครื่องเลเซอร์กำจัดขน IPL ยี่ห้อไหนดี 2025 ทำเองที่บ้านได้ผลเหมือนคลินิก

เบื่อไหมกับการต้องโกนขนทุกๆ สองสามวัน? เจ็บตัวกับการแว็กซ์ที่ต้องทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า? หรือค่าใช้จ่ายในการเข้าคอร์สเลเซอร์ที่คลินิกที่สูงลิ่ว? ถ้าคุณกำลังพยักหน้าอยู่ล่ะก็ บทความนี้คือคำตอบที่คุณตามหาค่ะ! ปัจจุบันเทคโนโลยีการกำจัดขนได้พัฒนาไปไกลมาก จนเราสามารถยกประสบการณ์ระดับคลินิกมาไว้ที่บ้านได้ง่ายๆ ด้วย “เครื่องเลเซอร์กำจัดขน IPL” ที่ไม่เพียงแต่สะดวกสบายและเป็นส่วนตัว แต่ยังคุ้มค่าในระยะยาวอีกด้วย

ในยุคที่ใครๆ ก็อยากมีผิวเรียบเนียนไร้ขนกวนใจ การลงทุนกับเครื่อง IPL ดีๆ สักเครื่องจึงกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง แต่คำถามสำคัญคือ ท่ามกลางสารพัดยี่ห้อในท้องตลาด เราจะเลือก เครื่องเลเซอร์กำจัดขน IPL ยี่ห้อไหนดี ที่จะให้ผลลัพธ์ปังๆ เหมือนไปทำที่คลินิก? วันนี้ soodd.com ได้รวบรวมข้อมูลเชิงลึก คัดสรร 10 สุดยอดเครื่อง IPL แห่งปี 2025 มาให้คุณแล้ว พร้อมเจาะลึกทุกแง่มุม ตั้งแต่วิธีการทำงาน การเลือกซื้อให้เหมาะกับตัวเอง ไปจนถึงรีวิวแบบจัดเต็ม เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและได้ผลลัพธ์ผิวสวยเนียนใสสมใจอยากค่ะ

IPL คืออะไร? ทำงานอย่างไร และต่างจากเลเซอร์ที่คลินิกจริงไหม?

ก่อนที่เราจะไปดูลิสต์เครื่องเด็ดๆ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าเทคโนโลยี IPL ที่เราจะใช้กำจัดขนเองที่บ้านนั้นคืออะไรกันแน่ หลายคนอาจจะยังสับสนและเรียกติดปากว่า “เลเซอร์” แต่จริงๆ แล้วมีความแตกต่างที่สำคัญอยู่ค่ะ

IPL (Intense Pulsed Light) คือเทคโนโลยีที่ใช้ “ลำแสงแบบกว้าง” ที่มีความยาวคลื่นหลากหลาย (คล้ายแสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูป) ยิงลงไปที่ผิวหนัง พลังงานแสงเหล่านี้จะถูกดูดซับโดยเม็ดสีเมลานิน (Melanin) ที่เข้มข้นในรากขน จากนั้นพลังงานแสงจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนเพื่อเข้าไปทำลายรากขนและหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเส้นขนใหม่ ทำให้ขนค่อยๆ ขึ้นช้าลง บางลง และหลุดร่วงไปในที่สุด

ความแตกต่างระหว่าง IPL ที่บ้าน กับ Laser ที่คลินิก

  • ประเภทของแสง: นี่คือความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุด Laser ที่คลินิกใช้พลังงานแสงที่มีความยาวคลื่นเดียว (Monochromatic) ที่เฉพาะเจาะจงและพุ่งตรงไปยังเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ทำให้มีประสิทธิภาพสูงและเห็นผลเร็ว ในขณะที่ IPL ใช้ลำแสงแบบกว้าง (Broad Spectrum) ที่มีความยาวคลื่นหลากหลาย ทำให้พลังงานกระจายตัวมากกว่า
  • ความเข้มข้นของพลังงาน: เครื่องเลเซอร์ที่คลินิกซึ่งควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญจะใช้พลังงานที่สูงกว่ามาก ทำให้สามารถกำจัดขนได้อย่างรวดเร็วและถาวรกว่าในจำนวนครั้งที่น้อยกว่า ส่วนเครื่อง IPL สำหรับใช้ที่บ้านจะถูกออกแบบมาให้มีพลังงานต่ำกว่าเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ใช้งานเอง ซึ่งหมายความว่าอาจจะต้องทำบ่อยครั้งและใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
  • ความปลอดภัยและการใช้งาน: ด้วยพลังงานที่ต่ำกว่าและมีฟังก์ชันเซ็นเซอร์ตรวจจับสีผิว ทำให้เครื่อง IPL ที่บ้านมีความปลอดภัยสูงมากสำหรับผู้ใช้ทั่วไป สามารถทำได้เองง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ในขณะที่เลเซอร์คลินิกจำเป็นต้องทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากพลังงานที่สูง

สรุปง่ายๆ คือ IPL ที่บ้านเปรียบเสมือนเวอร์ชันที่อ่อนโยนและปลอดภัยกว่าของเลเซอร์คลินิก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบาย ความเป็นส่วนตัว และผลลัพธ์ผิวเรียบเนียนในระยะยาวโดยไม่ต้องจ่ายแพงเท่าคอร์สที่คลินิกค่ะ

ข้อดี-ข้อเสียของเครื่องกำจัดขน IPL แบบทำเองที่บ้าน

การตัดสินใจลงทุนซื้อเครื่อง IPL สักเครื่อง ควรพิจารณาข้อดีข้อเสียให้รอบด้าน เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความคาดหวังของคุณจริงๆ

ข้อดี (Pros)

  • คุ้มค่าในระยะยาว: แม้ราคาเริ่มต้นอาจดูสูง แต่เมื่อเทียบกับการจ่ายค่าคอร์สเลเซอร์ที่คลินิกซึ่งอาจสูงถึงหลักหมื่นหรือหลักแสน หรือค่าแว็กซ์ที่ต้องจ่ายซ้ำๆ ทุกเดือน การซื้อเครื่อง IPL ครั้งเดียวสามารถใช้งานได้นานหลายปี ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่ามาก
  • สะดวกและเป็นส่วนตัวสูงสุด: คุณสามารถกำจัดขนในพื้นที่ส่วนตัวของคุณได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า และไม่ต้องรู้สึกเขินอายเมื่อต้องกำจัดขนในจุดซ่อนเร้น
  • เจ็บน้อยกว่ามาก: เมื่อเทียบกับการแว็กซ์หรือการถอน เครื่อง IPL ให้ความรู้สึกเหมือนหนังยางดีดเบาๆ บนผิวเท่านั้น และส่วนใหญ่สามารถปรับระดับความแรงให้เหมาะกับความทนของแต่ละคนได้
  • ลดปัญหาขนคุดและหนังไก่: การใช้ IPL จะช่วยให้เส้นขนที่ขึ้นใหม่มีขนาดเล็กลงและบางขึ้น ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดขนคุดและการอักเสบของรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวบริเวณนั้นเรียบเนียนขึ้น

ข้อเสีย (Cons)

  • ไม่เหมาะกับทุกสีผิวและสีขน: IPL ทำงานโดยการจับเม็ดสีเมลานิน ดังนั้นจึงให้ผลดีที่สุดกับคนที่มีสีผิวขาวถึงปานกลางและมีสีขนเข้ม (ดำหรือน้ำตาลเข้ม) และมักจะใช้ไม่ได้ผลกับขนสีอ่อนมากๆ เช่น สีบลอนด์, สีเทา, สีขาว หรือสีแดง และอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีสีผิวเข้มมาก
  • ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ: การกำจัดขนด้วย IPL ที่บ้านต้องอาศัยวินัยและความอดทน คุณต้องทำตามตารางอย่างสม่ำเสมอ (เช่น ทุก 1-2 สัปดาห์ในช่วงแรก) และอาจใช้เวลา 2-3 เดือนกว่าจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
  • ผลลัพธ์ไม่ใช่การกำจัดขนถาวร: IPL ช่วยลดปริมาณขนและทำให้ขึ้นช้าลงได้อย่างมีนัยสำคัญ (Long-term hair reduction) แต่ไม่ใช่การกำจัดแบบถาวร (Permanent hair removal) คุณอาจยังต้องกลับมาทำซ้ำเป็นครั้งคราว (เช่น เดือนละครั้ง) เพื่อคงสภาพผิวเรียบเนียนไว้

วิธีเลือกซื้อเครื่องเลเซอร์กำจัดขน IPL ยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะกับคุณ

เมื่อตัดสินใจแล้วว่า IPL คือคำตอบ การเลือกซื้อเครื่องที่ใช่ก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้การลงทุนของคุณคุ้มค่าและปลอดภัยที่สุด นี่คือปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณาค่ะ

1. เซ็นเซอร์ตรวจจับสีผิวและสีขน (Skin Tone & Hair Color Sensor)

นี่คือฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญที่สุด! เครื่องที่ดีควรมีเซ็นเซอร์อัจฉริยะที่สามารถวิเคราะห์สีผิวของคุณได้โดยอัตโนมัติ และปรับระดับพลังงานให้เหมาะสม หรือหยุดทำงานหากตรวจพบว่าสีผิวของคุณเข้มเกินไปสำหรับระดับพลังงานที่ตั้งไว้ เพื่อป้องกันการเบิร์น ฟีเจอร์นี้ช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างมั่นใจโดยเฉพาะมือใหม่

2. จำนวนช็อต (Number of Flashes)

จำนวนช็อตเปรียบเสมือนอายุการใช้งานของเครื่อง ยิ่งมีจำนวนช็อตมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งใช้งานได้นานขึ้นเท่านั้น โดยทั่วไปเครื่อง IPL จะมีจำนวนช็อตตั้งแต่ 250,000 ไปจนถึง 999,999 ช็อต ซึ่งหากเป็นเครื่องที่มี 500,000 ช็อตขึ้นไป ก็มักจะเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วร่างกายได้นานกว่า 10-15 ปีเลยทีเดียว

3. ระดับความแรงของพลังงาน (Intensity Levels)

มองหาเครื่องที่สามารถปรับระดับความแรงได้หลายระดับ (อย่างน้อย 5 ระดับ) เพื่อให้คุณสามารถปรับใช้ให้เหมาะกับแต่ละส่วนของร่างกายได้ เช่น ใช้ระดับต่ำสำหรับบริเวณที่บอบบางอย่างใบหน้าหรือบิกินี่ไลน์ และใช้ระดับสูงขึ้นสำหรับบริเวณขาหรือแขนที่ผิวหนากว่า

4. หัวยิงเลเซอร์ (Treatment Heads)

เครื่องบางรุ่นจะมาพร้อมหัวยิงหลายขนาด ซึ่งมีประโยชน์มาก หัวขนาดใหญ่จะช่วยให้คุณกำจัดขนในบริเวณกว้างๆ เช่น แขน ขา ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนหัวขนาดเล็กหรือหัวสำหรับจุดที่ต้องการความแม่นยำ (Precision Head) จะเหมาะสำหรับบริเวณเล็กๆ หรือโค้งเว้า เช่น ริมฝีปากบน รักแร้ และแนวบิกินี่

5. ฟังก์ชันเสริมเพื่อความสะดวกและปลอดภัย

  • โหมดการยิง (Shooting Mode): โหมด Stamp/Manual สำหรับยิงทีละช็อตในพื้นที่เล็กๆ และโหมด Glide/Auto สำหรับการยิงต่อเนื่องในพื้นที่ใหญ่ๆ จะช่วยให้ใช้งานได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น
  • ระบบทำความเย็น (Cooling System): ฟีเจอร์นี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะช่วยปลอบประโลมผิวและลดความรู้สึกร้อนหรือเจ็บขณะยิง ทำให้ประสบการณ์การใช้งานดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • การเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน: บางแบรนด์อย่าง Philips มีแอปฯ ที่ช่วยติดตามตารางการทำทรีตเมนต์และให้คำแนะนำส่วนบุคคล ซึ่งมีประโยชน์มากในการสร้างวินัย
  • การออกแบบ (Design): เลือกรุ่นที่จับถนัดมือ ไม่หนักเกินไป และใช้งานง่าย อาจพิจารณาเลือกรุ่นไร้สายเพื่อความคล่องตัวสูงสุด

เปิดลิสต์! 10 เครื่องเลเซอร์กำจัดขน IPL ยี่ห้อไหนดี 2025 ที่ชาวเน็ตบอกต่อ

มาถึงส่วนที่ทุกคนรอคอย! เราได้คัดเลือกและรวบรวม 10 เครื่องกำจัดขน IPL ที่โดดเด่นและได้รับการยอมรับในเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัย มาดูกันว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง

1. Philips Lumea Prestige BRI958

ยกให้เป็นราชาแห่งวงการ IPL ที่บ้านเลยก็ว่าได้สำหรับ Philips Lumea Prestige ที่มาพร้อมเทคโนโลยี SenseIQ อัจฉริยะ ช่วยวิเคราะห์สีผิวและแนะนำระดับพลังงานที่เหมาะสมให้อัตโนมัติ ทำให้มั่นใจได้ในความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด จุดเด่นที่สุดคือการมีหัวต่อมาให้ถึง 4 หัว สำหรับร่างกาย, ใบหน้า, บิกินี่ และรักแร้โดยเฉพาะ ซึ่งแต่ละหัวออกแบบมาให้โค้งรับกับสรีระส่วนต่างๆ ได้อย่างพอดิบพอดี สามารถใช้งานได้ทั้งแบบมีสายและไร้สายเพื่อความคล่องตัวสูงสุด แม้ราคาจะสูงกว่าแบรนด์อื่น แต่ด้วยคุณภาพ เทคโนโลยี และผลลัพธ์ที่เทียบเท่าคลินิก ทำให้เป็นตัวเลือกที่หลายคนยอมลงทุนเพื่อความสวยเนียนใสในระยะยาว และยังเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่แพทย์ผิวหนังแนะนำอีกด้วย

คุณสมบัติเด่น

  • จำนวนช็อต: 450,000 ช็อต
  • ระดับความแรง: 5 ระดับ พร้อม SmartSkin Sensor
  • เทคโนโลยี: SenseIQ Technology
  • หัวยิง: 4 หัวอัจฉริยะ (ร่างกาย, ใบหน้า, บิกินี่, รักแร้)
  • การใช้งาน: ใช้ได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย
  • แอปพลิเคชัน: มีแอป Lumea IPL ช่วยติดตามและวางแผนการใช้งาน

2. Braun Silk-expert Pro 5 PL5347

คู่แข่งคนสำคัญของ Philips ที่มาแรงไม่แพ้กัน Braun Silk-expert Pro 5 มีจุดขายที่เทคโนโลยี SensoAdapt™ ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร เพราะเซ็นเซอร์จะสแกนสีผิวอย่างต่อเนื่อง (80 ครั้งต่อวินาที) และปรับความเข้มของแสงโดยอัตโนมัติตลอดการใช้งาน ทำให้เป็นหนึ่งในเครื่องที่ปลอดภัยและรวดเร็วที่สุดในตลาด สามารถยิงต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 125 ครั้งต่อนาที ช่วยให้คุณกำจัดขนบริเวณขา 2 ข้างเสร็จภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที! มาพร้อมหัวต่อหลายขนาดรวมถึงหัวยิงแบบแม่นยำ ทำให้ใช้งานได้ทั่วเรือนร่างอย่างง่ายดาย เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการความรวดเร็ว ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยสูง

คุณสมบัติเด่น

  • จำนวนช็อต: 400,000 ช็อต
  • ระดับความแรง: 10 ระดับ (ปรับอัตโนมัติ)
  • เทคโนโลยี: SensoAdapt™ Skin Tone Sensor
  • ความเร็ว: สูงสุด 125 แฟลชต่อนาที
  • หัวยิง: 2-3 หัว (ขึ้นอยู่กับเซ็ต) รวมถึงหัวยิงแม่นยำ
  • โหมดการยิง: Glide mode และ Stamp mode

3. Ulike Air 3 IPL Hair Removal

มาแรงแซงโค้งและเป็นกระแสสุดๆ ในโลกโซเชียล ต้องยกให้ Ulike Air 3 จากแบรนด์ที่เน้นเทคโนโลยีความเย็นเป็นพิเศษ จุดเด่นที่สุดคือเทคโนโลยี Sapphire Ice-Cooling ที่จดสิทธิบัตร ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิผิวขณะยิงแสง IPL ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้แทบไม่รู้สึกเจ็บหรือร้อนเลย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนขี้กลัวหรือมีผิวบอบบาง และยังช่วยลดความเสี่ยงจากการเบิร์นได้อีกด้วย ตัวเครื่องออกแบบมาสวยงาม ทันสมัย ใช้งานง่าย ให้พลังงานสูงถึง 21J ทำให้เห็นผลลัพธ์การลดลงของเส้นขนได้ค่อนข้างเร็วเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในราคาใกล้เคียงกัน ใครที่มองหาเครื่องที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่สบายผิวและให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ Ulike คือคำตอบ

คุณสมบัติเด่น

  • จำนวนช็อต: ไม่จำกัด (Unlimited flashes)
  • ระดับความแรง: 5 ระดับ
  • เทคโนโลยี: Sapphire Ice-Cooling Patent Technology
  • พลังงาน: สูงถึง 21J
  • ความเร็ว: 0.7 วินาทีต่อแฟลช
  • การออกแบบ: สวยงาม พรีเมียม ใช้งานง่าย

4. SmoothSkin Pure Fit IPL Hair Removal

แบรนด์จากอังกฤษที่เชี่ยวชาญด้าน IPL โดยเฉพาะ SmoothSkin Pure Fit เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยดีไซน์ที่จับถนัดมือและเทคโนโลยีที่อัดแน่น มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับสีผิวอัจฉริยะที่ปรับระดับพลังงานให้อัตโนมัติจาก 10 ระดับ และมี 3 โหมดการใช้งานให้เลือกคือ Power, Speed และ Gentle เพื่อตอบโจทย์ทุกสภาพผิวและความต้องการ จุดเด่นคือพลังงานที่สูงและสม่ำเสมอ ช่วยให้กำจัดขนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ มาพร้อมหัวต่อ Precision Head สำหรับพื้นที่เล็กๆ โดยเฉพาะ ทำให้การกำจัดขนบริเวณริมฝีปากบนหรือแนวบิกินี่เป็นเรื่องง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น

คุณสมบัติเด่น

  • จำนวนช็อต: ไม่จำกัด (Unlimited flashes)
  • ระดับความแรง: 10 ระดับ (ปรับอัตโนมัติ)
  • โหมดการใช้งาน: 3 โหมด (Power, Speed, Gentle)
  • ความเร็ว: สูงสุด 130 แฟลชต่อนาที
  • หัวยิง: มาพร้อม Precision Head
  • มาตรฐาน: ผ่านการรับรองจาก FDA

5. Beurer IPL Pure Skin Pro 5500

แบรนด์เครื่องมือแพทย์และสุขภาพจากเยอรมนีที่ขึ้นชื่อเรื่องมาตรฐานและความน่าเชื่อถือ Beurer IPL 5500 เป็นรุ่นที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา มาพร้อมฟังก์ชันความปลอดภัยครบครัน ทั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับสีผิวและเซ็นเซอร์ตรวจจับการสัมผัส (ยิงแสงเมื่อแนบสนิทกับผิวเท่านั้น) และมีฟิลเตอร์ป้องกันรังสียูวีในตัว จำนวนช็อตที่ให้มาถึง 600,000 ช็อตถือว่าเยอะมาก ใช้งานได้ยาวๆ หลายปี มีโหมด “Auto-Flash” สำหรับการใช้งานที่รวดเร็วในบริเวณกว้าง เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและไว้ใจได้ในเรื่องความปลอดภัย

คุณสมบัติเด่น

  • จำนวนช็อต: 600,000 ช็อต
  • ระดับความแรง: 3 ระดับ
  • เทคโนโลยี: 2-in-1 skin-type and skin-contact sensor
  • ความปลอดภัย: มี UV filter ในตัว
  • โหมดการยิง: Auto-Flash mode
  • แอปพลิเคชัน: มีแอป Beurer MyIPL ช่วยแนะนำการใช้งาน

6. PARIN IPL GEN 4

แบรนด์ไทยที่คุณภาพไม่แพ้แบรนด์นอกและกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ PARIN IPL GEN 4 เป็นรุ่นล่าสุดที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จุดเด่นคือการอัปเกรดหัวยิงเป็นหัวควอตซ์เกรดพรีเมียมที่ทนทานและนำส่งพลังงานได้ดีกว่าเดิม พร้อมจำนวนช็อตที่ให้มาแบบจุใจถึง 999,999 ช็อต ใช้กันไปยาวๆ จนลืม มาพร้อมฟังก์ชัน Ice Cool ที่ช่วยให้ผิวเย็นสบายขณะใช้งาน ลดความเจ็บและความร้อนได้ดี สามารถปรับความแรงได้ 5 ระดับและมี 2 โหมดการใช้งาน (Auto/Manual) เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากสนับสนุนแบรนด์ไทยและมองหาเครื่องสเปกสูงในราคาที่เข้าถึงง่าย

คุณสมบัติเด่น

  • จำนวนช็อต: 999,999 ช็อต
  • ระดับความแรง: 5 ระดับ
  • เทคโนโลยี: Ice Cool Function
  • หัวยิง: หัวควอตซ์ (Quartz Tube)
  • โหมดการยิง: Auto และ Manual
  • การรับประกัน: มีการรับประกันสินค้าและบริการหลังการขายที่ดี

7. Jobi IPL Pro Plus

อีกหนึ่งแบรนด์ที่กำลังมาแรงในตลาดเครื่อง IPL ที่บ้าน Jobi IPL Pro Plus โดดเด่นด้วยการเป็นเครื่องกำจัดขนแบบ 3-in-1 คือนอกจากหัวกำจัดขน (HR) แล้ว ยังมีหัวฟื้นฟูผิว (SR) และหัวรักษาสิว (AC) ให้เลือกซื้อเพิ่มได้ ทำให้เครื่องเดียวสามารถดูแลผิวได้อย่างครบวงจร รุ่นนี้มาพร้อมฟังก์ชันทำความเย็น Ice Cool และจำนวนช็อต 999,999 ช็อต สามารถปรับระดับความแรงได้ 5 ระดับ มีหน้าจอ LCD บอกข้อมูลชัดเจน ดีไซน์สวยงามทันสมัย เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการฟังก์ชันดูแลผิวที่หลากหลายนอกเหนือจากการกำจัดขนเพียงอย่างเดียว

คุณสมบัติเด่น

  • จำนวนช็อต: 999,999 ช็อต
  • ฟังก์ชัน: 3-in-1 (หัวกำจัดขน, หัวฟื้นฟูผิว, หัวรักษาสิว)
  • เทคโนโลยี: Ice Cool Function
  • ระดับความแรง: 5 ระดับ
  • หน้าจอ: LCD แสดงผลชัดเจน
  • โหมดการยิง: Auto และ Manual

8. Lescolton T009i

Lescolton เป็นแบรนด์ที่คุ้นหูในวงการเครื่อง IPL ราคาประหยัดมานาน รุ่น T009i เป็นรุ่นยอดนิยมที่ให้ฟังก์ชันมาคุ้มค่าเกินราคา มาพร้อมหัวยิง 2 หัว คือหัวกำจัดขน (HR) และหัวฟื้นฟูผิว (SR) ทำให้ใช้งานได้หลากหลาย สามารถปรับระดับความแรงได้ 5 ระดับ มีจอ LCD แสดงจำนวนช็อตที่เหลืออยู่ แม้จะไม่มีฟังก์ชันทำความเย็นเหมือนรุ่นใหม่ๆ แต่ด้วยราคาที่ไม่สูงมากและให้หัวมาถึง 2 แบบ ทำให้เป็นตัวเลือกเริ่มต้นที่ดีสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ที่งบประมาณจำกัดแต่อยากลองใช้เทคโนโลยี IPL

คุณสมบัติเด่น

  • จำนวนช็อต: 300,000 (หัวกำจัดขน) + 100,000 (หัวฟื้นฟูผิว)
  • ระดับความแรง: 5 ระดับ
  • หัวยิง: 2 หัว (HR และ SR)
  • หน้าจอ: LCD แสดงผล
  • ความคุ้มค่า: ราคาประหยัด ฟังก์ชันครบครัน

9. Medicube Age-R Ussera Deep Shot

แม้จะไม่ใช่เครื่อง IPL โดยตรง แต่ Medicube Age-R Ussera Deep Shot ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ความงามที่บ้านที่น่าสนใจจากเกาหลีที่ใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ (RF) และ Ultrasound เพื่อช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและยกกระชับผิว แต่ที่นำมารวมไว้ในลิสต์นี้เพราะหลายคนมักมองหาอุปกรณ์ที่ช่วยเรื่องผิวเรียบเนียนควบคู่กันไป หากเป้าหมายหลักของคุณคือการลดริ้วรอยและยกกระชับผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ เครื่องนี้คือคำตอบ แต่หากเป้าหมายหลักคือการกำจัดขน ควรเลือกเครื่องจากลิสต์ข้างต้น อย่างไรก็ตาม นี่เป็นตัวเลือกเสริมที่ดีเยี่ยมสำหรับคนที่ต้องการดูแลผิวแบบองค์รวมหลังจากกำจัดขนเรียบร้อยแล้ว

คุณสมบัติเด่น

  • เทคโนโลยี: High-Frequency Ultrasound + Radio-Frequency (RF)
  • เป้าหมาย: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน, ลดริ้วรอย, ยกกระชับผิว
  • ระดับความแรง: 5 ระดับ
  • การใช้งาน: ใช้ร่วมกับเจล Booster Gel เพื่อนำส่งพลังงาน
  • ผลลัพธ์: ช่วยให้ผิวแน่นกระชับและดูอ่อนเยาว์

10. JOVS Venus Pro II

ปิดท้ายด้วยแบรนด์พรีเมียมที่โดดเด่นทั้งดีไซน์และฟังก์ชัน JOVS Venus Pro II ได้รับรางวัล Red Dot Design Award การันตีความสวยงามของการออกแบบ จุดเด่นคือหัวยิงที่สามารถหมุนได้ 180° ทำให้เข้าถึงซอกมุมต่างๆ ของร่างกายได้ง่ายดาย มาพร้อมฟังก์ชันทำความเย็น Sapphire Ice-Cooling และมีหัวฟิลเตอร์กรองแสงที่แตกต่างกันถึง 6 แบบ สำหรับแต่ละส่วนของร่างกายโดยเฉพาะ (แขน, ขา, รักแร้, ใบหน้า, บิกินี่) และหัวฟื้นฟูผิว (SR) ทำให้การทำทรีตเมนต์มีความแม่นยำและเฉพาะเจาะจงสูงสุด เป็นเครื่องระดับไฮเอนด์สำหรับผู้ที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ ดีไซน์ และประสบการณ์การใช้งาน

คุณสมบัติเด่น

  • จำนวนช็อต: 500,000 ช็อต
  • เทคโนโลยี: Sapphire Ice-Cooling, หัวหมุนได้ 180°
  • หัวยิง: 6 หัวฟิลเตอร์สำหรับแต่ละส่วนโดยเฉพาะ + หัว SR
  • ระดับความแรง: 6 ระดับ
  • ดีไซน์: ได้รับรางวัล Red Dot Design Award 2020
  • ความเร็ว: 0.7 วินาทีต่อแฟลช

ตารางเปรียบเทียบเครื่องเลเซอร์กำจัดขน IPL ยอดนิยม 2025

เพื่อให้เห็นภาพและตัดสินใจเลือก เครื่องเลเซอร์กำจัดขน IPL ยี่ห้อไหนดี ได้ง่ายขึ้น เราได้สรุปข้อมูลสำคัญของรุ่นเด่นๆ มาให้ในรูปแบบตารางค่ะ

ยี่ห้อ/รุ่น จำนวนช็อต ระดับความแรง ฟังก์ชันเด่น ราคาประมาณ
Philips Lumea Prestige BRI958 450,000 5 ระดับ (ปรับอัตโนมัติ) SenseIQ, หัวยิง 4 แบบ, ไร้สาย สูง (20,000+)
Braun Silk-expert Pro 5 400,000 10 ระดับ (ปรับอัตโนมัติ) SensoAdapt™, ยิงเร็วมาก สูง (15,000+)
Ulike Air 3 ไม่จำกัด 5 ระดับ Sapphire Ice-Cooling เย็นสบาย ปานกลาง-สูง (9,000 – 12,000)
SmoothSkin Pure Fit ไม่จำกัด 10 ระดับ (ปรับอัตโนมัติ) 3 โหมดใช้งาน, พลังงานสูง สูง (14,000+)
PARIN IPL GEN 4 999,999 5 ระดับ Ice Cool, ช็อตเยอะ, แบรนด์ไทย ปานกลาง (4,000 – 6,000)

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

เราได้รวบรวมคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับการใช้เครื่อง IPL ที่บ้านมาตอบให้หายข้องใจกันค่ะ

1. ใช้เครื่อง IPL แล้วเจ็บไหม?
ความรู้สึกจะคล้ายๆ กับหนังยางดีดเบาๆ พร้อมกับความรู้สึกอุ่นๆ บนผิวค่ะ ไม่เจ็บเท่าการแว็กซ์หรือถอนแน่นอน เครื่องส่วนใหญ่ในปัจจุบันสามารถปรับระดับความแรงได้ และหลายรุ่นมีฟังก์ชันทำความเย็น (Ice Cool) ซึ่งช่วยลดความรู้สึกเจ็บและร้อน ทำให้ประสบการณ์การใช้งานสบายขึ้นมากค่ะ

2. ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนใช้เครื่องกำจัดขน IPL?
สำคัญมากค่ะ! ก่อนใช้งานประมาณ 12-24 ชั่วโมง ให้โกนขนในบริเวณที่ต้องการทำทรีตเมนต์ออกให้หมด (ห้ามแว็กซ์หรือถอนเด็ดขาด เพราะ IPL ต้องการรากขนในการส่งพลังงาน) จากนั้นทำความสะอาดผิวให้หมดจดและเช็ดให้แห้งสนิท ห้ามทาครีม โลชั่น หรือผลิตภัณฑ์ใดๆ ก่อนใช้งาน และควรทำ Patch Test หรือทดลองยิงในบริเวณเล็กๆ ก่อนเพื่อดูการตอบสนองของผิวค่ะ

3. ใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะเห็นผล?
ผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปจะเริ่มสังเกตเห็นว่าขนขึ้นช้าลงและบางลงหลังจากใช้งานอย่างสม่ำเสมอประมาณ 3-4 ครั้ง (ประมาณ 4-8 สัปดาห์) และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดหลังผ่านไปประมาณ 12 สัปดาห์ หลังจากนั้นให้ทำต่อเนื่องเดือนละ 1-2 ครั้งเพื่อคงสภาพผิวให้เรียบเนียนค่ะ ความสม่ำเสมอคือหัวใจสำคัญที่สุด

4. เครื่อง IPL สามารถใช้กับบริเวณไหนของร่างกายได้บ้าง?
เครื่องส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้ใช้ได้เกือบทั่วร่างกาย เช่น ขา แขน รักแร้ แผ่นหลัง และแนวบิกินี่ บางรุ่นที่มีหัวยิงสำหรับใบหน้าโดยเฉพาะ สามารถใช้กับบริเวณเหนือริมฝีปาก คาง และแก้มได้ (ต่ำกว่าโหนกแก้ม) ข้อควรระวังคือ ห้ามใช้บริเวณรอบดวงตาและคิ้วเด็ดขาด และควรอ่านคู่มือของแต่ละรุ่นอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัยค่ะ

บทสรุป

การเลือก เครื่องเลเซอร์กำจัดขน IPL ยี่ห้อไหนดี ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเมื่อคุณมีความเข้าใจในเทคโนโลยีและรู้ว่าต้องมองหาอะไร การลงทุนในเครื่อง IPL ที่บ้านถือเป็นการปฏิวัติการดูแลตัวเองที่มอบทั้งความสะดวกสบาย ความเป็นส่วนตัว และความคุ้มค่าในระยะยาว ช่วยให้คุณบอกลาปัญหาขนกวนใจและได้ผิวที่เรียบเนียนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

หัวใจสำคัญในการเลือกซื้อคือการพิจารณาความเหมาะสมกับสีผิวและสีขนของคุณ มองหาฟังก์ชันด้านความปลอดภัยอย่างเซ็นเซอร์ตรวจจับสีผิว จำนวนช็อตที่เพียงพอ และฟังก์ชันเสริมอย่างระบบทำความเย็นที่จะช่วยให้ประสบการณ์ของคุณดียิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเลือกแบรนด์พรีเมียมอย่าง Philips หรือ Braun ที่เทคโนโลยีล้ำสมัย หรือแบรนด์ที่กำลังมาแรงอย่าง Ulike และ PARIN ที่เน้นความเย็นสบายและคุ้มค่า ขอเพียงเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และงบประมาณของคุณ การมีผิวสวยเนียนใสไร้ขนกวนใจแบบไม่ต้องง้อคลินิกก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันอีกต่อไปค่ะ

Image by: Sora Shimazaki
https://www.pexels.com/@sora-shimazaki

The Digital Alchemist (นักเล่นแร่แปรธาตุดิจิทัล)
ผู้ถักทอเรื่องราวและประสบการณ์ผ่านผืนผ้าใบดิจิทัล The Digital Alchemist แห่ง Sooddd.com ไม่เพียงแต่รังสรรค์เนื้อหา แต่ยังปรุงแต่งแรงบันดาลใจ เปลี่ยนแปลงข้อมูลให้เป็นปัญญา และสร้างสรรค์โลกออนไลน์ที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ด้วยวิสัยทัศน์เฉียบคมและความมุ่งมั่นที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เขาคือผู้พลิกโฉมสิ่งธรรมดาให้กลายเป็นความพิเศษในทุกการคลิก