อยากเปลี่ยนลุคใหม่ให้สดใสซาบซ่า แต่ก็กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในร้านทำผมที่แสนจะแพง? หรือกลัวว่าย้อมผมเองแล้วสีจะไม่สวยตรงปก แถมผมยังพังเป็นไม้กวาดอีก? ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปค่ะ! เพราะวันนี้ soodd.com จะพาทุกคนไปเจาะลึกกับ “สีย้อมผมเบอริน่า” (Berina) แบรนด์ครีมเปลี่ยนสีผมในตำนานที่อยู่คู่คนไทยมานานแสนนาน ด้วยจุดเด่นเรื่องราคาที่สบายกระเป๋าแบบสุดๆ มีเฉดสีให้เลือกเยอะมากจนตาลาย และหาซื้อง่ายสุดๆ ไม่ว่าใครที่คิดจะเริ่มต้นย้อมผมเองที่บ้านก็ต้องเคยได้ยินชื่อนี้อย่างแน่นอน
ในบทความนี้ เราไม่ได้มาแค่บอกว่าเบอริน่าดีอย่างไร แต่เราจะมารีวิวแบบจัดเต็ม! กับ 10 สีย้อมผมเบอริน่าสีสวยๆ อัปเดตเทรนด์ปี 2025 ที่คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง ย้อมแล้วหน้าสว่าง ขับผิวให้ดูมีออร่า พร้อมเผยทุกเคล็ดลับตั้งแต่การเตรียมผม, เทคนิคการผสมสีให้เป๊ะเหมือนช่างมือโปร, วิธีการย้อมด้วยตัวเองให้สีสม่ำเสมอไม่ด่าง ไปจนถึงการบำรุงหลังทำสีให้ติดทนนานและผมเสียน้อยที่สุด อ่านจบปุ๊บ รับรองว่าคุณจะกลายเป็นเซียนย้อมผมเบอริน่าได้ในทันที ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย!
ทำไมสีย้อมผมเบอริน่าถึงครองใจสายแฟชั่นมาอย่างยาวนาน?
หลายคนอาจสงสัยว่าท่ามกลางแบรนด์สีย้อมผมมากมายในท้องตลาด ทำไมเบอริน่าถึงยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่หลายคนนึกถึงเสมอเมื่อต้องการเปลี่ยนสีผม คำตอบนั้นเรียบง่ายแต่ทรงพลังอย่างยิ่ง เบอริน่าสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนรักการทำสีผมได้อย่างครบถ้วนในหลายๆ ด้าน จนกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจและมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นมายาวนาน
- ราคาเข้าถึงง่ายที่สุด: จุดแข็งที่สุดที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือเรื่องของราคา เบอริน่ามีราคาที่ถูกมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ทำให้ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือคนวัยทำงานที่อยากเปลี่ยนสีผมบ่อยๆ ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องงบประมาณที่บานปลาย การที่สามารถซื้อสีมาทดลองผสมเองได้หลายๆ กล่องโดยที่ยังจ่ายในราคาเบาๆ ถือเป็นสวรรค์ของคนรักการทดลองสีผมเลยทีเดียว
- เฉดสีหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกสไตล์: เบอริน่ามีชาร์ตสีให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่สีพื้นฐานอย่างดำ, น้ำตาลธรรมชาติ ไปจนถึงสีแฟชั่นจี๊ดจ๊าดสุดขั้วอย่าง แดง, ชมพู, เขียว, น้ำเงิน, เทา, ม่วง ทำให้ไม่ว่าคุณจะต้องการลุคแบบไหน สุภาพเรียบร้อย, สวยหวาน, เปรี้ยวซ่า หรือเท่มีสไตล์ เบอริน่าก็มีสีที่ตอบโจทย์คุณได้เสมอ
- หาซื้อง่ายมาก: ความสะดวกสบายในการเข้าถึงก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ คุณสามารถหาสีย้อมผมเบอริน่าได้ง่ายๆ ตามร้านขายอุปกรณ์เสริมสวยทั่วไป, ร้านสะดวกซื้อบางแห่ง, ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือแม้กระทั่งสั่งซื้อออนไลน์ก็สะดวกสบายสุดๆ ไม่ต้องเสียเวลาตามหาให้ยุ่งยาก
- คุณภาพที่ไว้ใจได้: แม้ราคาจะถูก แต่คุณภาพของเม็ดสีนั้นถือว่าทำได้ดีเกินคาด ให้สีที่ค่อนข้างตรงปก (เมื่อทำบนพื้นผมที่สว่างเหมาะสม) มีความติดทนในระดับที่น่าพอใจ ทำให้เบอริน่าเป็นแบรนด์ที่ “คุ้มค่าเกินราคา” อย่างแท้จริง
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่สีย้อมผมเบอริน่าจะสามารถยืนหยัดและเป็นที่รักของคนไทยมาได้จนถึงทุกวันนี้ กลายเป็นไอเทมสามัญประจำบ้านของใครหลายๆ คนที่อยากจะรังสรรค์สีผมสวยๆ ด้วยตัวเอง
ก่อนย้อมต้องรู้! เตรียมผมให้พร้อมก่อนลงสีเบอริน่า
หัวใจสำคัญของการย้อมผมให้ได้สีสวยตรงใจและลดโอกาสผมเสียให้ได้มากที่สุด คือ “การเตรียมสภาพเส้นผม” ให้พร้อมรับการทำเคมี หลายคนมักมองข้ามขั้นตอนนี้ไปและลงสีทันที ผลลัพธ์ที่ได้คือสีอาจไม่สม่ำเสมอหรือผมแห้งเสียมากกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น เพื่อให้การใช้สีย้อมผมเบอริน่าของคุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มาทำตามขั้นตอนการเตรียมผมแบบมืออาชีพกันเถอะ
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
การเตรียมอุปกรณ์ให้ครบถ้วนจะช่วยให้ขั้นตอนการย้อมผมราบรื่น ไม่ติดขัด และไม่เลอะเทอะ
- สีย้อมผมเบอริน่า: เตรียมสีที่ต้องการตามจำนวนที่เหมาะสมกับความยาวและความหนาของเส้นผม (ผมสั้นประบ่า 1 กล่อง, ผมยาวกลางหลัง 2 กล่อง, ผมยาวและหนา 3 กล่องขึ้นไป)
- ถ้วยผสมสีและแปรงย้อมผม: ควรใช้ถ้วยพลาสติกเท่านั้น ห้ามใช้ภาชนะที่เป็นโลหะเด็ดขาด
- ถุงมือ: โดยส่วนใหญ่ไม่มีแถมมาในกล่อง ควรเตรียมไว้เพื่อป้องกันสีติดมือและอาการแพ้
- กิ๊บหนีบผม: สำหรับแบ่งผมเป็นช่อๆ เพื่อให้ลงสีได้ทั่วถึง
- ผ้าคลุมไหล่หรือเสื้อเก่าๆ: เพื่อป้องกันเสื้อผ้าสวยๆ ของคุณเปรอะเปื้อน
- วาสลีนหรือเบบี้ออยล์: ใช้ทาบริเวณกรอบหน้า, ท้ายทอย, และใบหู เพื่อป้องกันสีติดผิวหนัง
- หมวกคลุมผมพลาสติก (Shower Cap): ช่วยกักเก็บความร้อนระหว่างทิ้งสีไว้ ทำให้สีติดดียิ่งขึ้น
ขั้นตอนการเตรียมผม
- เช็คสภาพเส้นผม: หากผมของคุณแห้งเสีย แตกปลาย หรืออ่อนแอมาก ควรพักผมและบำรุงด้วยทรีทเม้นท์หรือหมักผมอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนทำสี เพื่อให้ผมแข็งแรงพอที่จะรับเคมีได้
- ไม่ต้องสระผมก่อนย้อม: ควรงดสระผมก่อนย้อมอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำมันตามธรรมชาติที่หนังศีรษะผลิตออกมาเป็นเกราะป้องกันหนังศีรษะจากสารเคมี ลดอาการแสบคันได้ดี และยังช่วยให้สีติดทนขึ้นด้วย
- ทดสอบอาการแพ้ (Patch Test): นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดแต่คนมักละเลย! ผสมสีเล็กน้อยแล้วนำไปป้ายบริเวณหลังใบหูหรือข้อพับแขน ทิ้งไว้ 24-48 ชั่วโมง หากไม่มีอาการคัน บวม แดง หรือผิดปกติ ก็สามารถย้อมได้ แต่ถ้ามีอาการแพ้ ควรหยุดใช้ทันที
- หวีผมให้เรียบ: ก่อนลงสี ควรหวีผมให้ทั่ว ไม่ให้มีส่วนที่พันกัน เพื่อให้สามารถแบ่งช่อและลงสีได้อย่างราบรื่น
เปิดโพย! 10 สีย้อมผมเบอริน่าสีสวยๆ 2025 ย้อมแล้วหน้าสว่าง ขับผิวสุดๆ
ถึงเวลาของไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอย! เราได้คัดสรร 10 เฉดสียอดฮิตและน่าจับตามองสำหรับปี 2025 มาให้แล้ว มีครบทุกโทนตั้งแต่สีซอฟต์ๆ ไปจนถึงสีแฟชั่นสุดจี๊ด รับรองว่ามีสีที่ถูกใจคุณอย่างแน่นอน
1. Berina A21 สีเทาอ่อน (Light Grey)
ยืนหนึ่งเรื่องความเท่และความฮิตตลอดกาลต้องยกให้สีเทาอ่อนเลยค่ะ เบอร์ A21 เป็นแม่สีเทาที่สายแฟชั่นทุกคนต้องมีติดบ้าน เป็นเฉดสีเทาที่ไม่อมฟ้าหรืออมเขียวมากเกินไป ให้ลุคที่ดูทันสมัย มีสไตล์ ไม่ว่าจะทำผมสั้นหรือผมยาวก็เอาอยู่ สีนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในการนำไปผสมกับสีอื่นๆ เพื่อหักล้างเม็ดสีเหลือง-ส้มในเส้นผม หรือใช้เดี่ยวๆ เพื่อทำผมสีเทาควันบุหรี่สุดปัง การย้อมสีนี้ให้สวยเป๊ะจำเป็นต้องมีพื้นผมที่สว่างมากๆ ระดับ 9-10 ขึ้นไป (สีบลอนด์อ่อนมาก) ดังนั้นการฟอกสีผมจึงเป็นขั้นตอนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่ากับการลงทุนแน่นอนค่ะ จะได้สีเทาที่ดูมีมิติ สวยแพง และช่วยขับผิวให้ดูสว่างมีออร่าขึ้นอีกด้วย
คุณสมบัติเด่น
- เป็นแม่สีเทาที่สามารถนำไปผสมกับสีอื่นเพื่อสร้างเฉดใหม่ๆ ได้หลากหลาย
- ให้สีเทาที่ชัดเจน ดูทันสมัย ไม่ตกเทรนด์
- เหมาะสำหรับใช้ในการทำสีผมโทนเทา, เทาควันบุหรี่, หรือบลอนด์หม่นเทา
- จำเป็นต้องฟอกสีผม: ต้องมีพื้นผมสว่างระดับ 9-10 (บลอนด์อ่อนมาก) เพื่อให้ได้สีเทาที่ชัดเจน
- ช่วยหักล้างประกายสีเหลืองบนเส้นผมได้ดี
2. Berina A38 สีบลอนด์อ่อนประกายหม่น (Light Ash Blonde)
สำหรับใครที่อยากได้สีผมโทนหม่นแต่ไม่ถึงกับเทาจ๋า A38 คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบค่ะ เฉดสีนี้เป็นสีบลอนด์อ่อนประกายหม่นที่สวยมาก ให้ความรู้สึกซอฟต์ๆ สไตล์ลูกคุณหนู เป็นสีที่ย้อมแล้วช่วยให้ใบหน้าดูสว่างไบร์ทขึ้นทันที แต่ก็ยังคงความสุภาพ ไม่ได้ดูแรงจนเกินไป สีนี้เป็นที่นิยมอย่างสูงเพราะเป็นโทนสีที่ทำได้ง่ายกว่าสีเทาโดยตรง และยังเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการลงสีแฟชั่นอื่นๆ ต่อไปในอนาคต หากต้องการสีบลอนด์หม่นที่ชัดเจน พื้นผมควรอยู่ที่ระดับ 8 ขึ้นไป แต่ถ้าพื้นผมสว่างไม่มาก ก็จะได้เป็นสีน้ำตาลประกายหม่นเหลือบเทาที่สวยไปอีกแบบ เป็นอีกหนึ่งสียอดฮิตที่ควรมีติดไว้สำหรับคนที่ชอบทำสีผมโทน Ash
คุณสมบัติเด่น
- ให้สีบลอนด์หม่นที่สวยละมุน สไตล์เกาหลี
- ช่วยขับผิวให้ดูสว่างและซอฟต์ลง
- เป็นสีกันตายที่ทำแล้วรอดแทบทุกสีผิว
- ระดับพื้นผมที่แนะนำ: ระดับ 8 ขึ้นไป (บลอนด์อ่อน) เพื่อให้ได้ประกายหม่นที่ชัดเจน
- หากพื้นผมเข้ม จะได้เป็นสีน้ำตาลหม่นที่สวยงาม
3. Berina A46 สีน้ำตาลอ่อนประกายหม่นเหลือบเทา (Light Ash Brown)
นี่คือสีน้ำตาลหม่นในอุดมคติของใครหลายคน! A46 เป็นสีที่ผสมผสานระหว่างสีน้ำตาล, สีเทา และความหม่นได้อย่างลงตัวที่สุด ให้ผลลัพธ์เป็นสีน้ำตาลอ่อนที่ไม่ติดส้มหรือแดงเลยแม้แต่น้อย เป็นสีที่ดูสุภาพแต่มีอะไรซ่อนอยู่ ทำให้ลุคดูน่าค้นหาและมีคลาสมากๆ เป็นสีที่เหมาะกับทุกโอกาส ไม่ว่าจะไปทำงาน ไปเรียน หรือไปเที่ยวก็สวยรอดหมด และที่สำคัญคือเป็นโทนสีที่เข้าได้กับทุกสีผิว โดยเฉพาะสาวไทยผิวสองสีหรือผิวเหลือง ย้อมแล้วจะช่วยขับผิวให้ผ่องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พื้นผมที่แนะนำสำหรับสีนี้คือระดับ 7-8 ก็สามารถให้สีน้ำตาลหม่นที่สวยงามได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องฟอกจนขาวเหมือนสีเทา
คุณสมบัติเด่น
- ให้สีน้ำตาลหม่นเทาที่สวยเป๊ะ ไม่ติดส้มแดง
- เป็นสีสุภาพที่ดูทันสมัย มีระดับ
- เข้าได้กับทุกสีผิว ช่วยขับผิวให้สว่างขึ้น
- ระดับพื้นผมที่แนะนำ: ระดับ 7-8 (บลอนด์) ก็ให้สีที่สวยงามได้
- เป็นหนึ่งในเบอร์ที่ขายดีที่สุดของเบอริน่า
4. Berina A6 สีม่วง (Violet)
เปลี่ยนมู้ดมาที่โทนสีแฟนซีกันบ้างกับ A6 สีม่วงสด ที่ไม่ได้เป็นแค่สีม่วงธรรมดา แต่เป็นแม่สีม่วงที่สารพัดประโยชน์อย่างยิ่ง นอกจากจะใช้ย้อมเดี่ยวๆ เพื่อให้ได้สีผมสีม่วงสุดจี๊ดจ๊าด โดดเด่นไม่เหมือนใครแล้ว ยังเป็นไอเทมลับที่ช่างผมใช้ในการ “ฆ่าไรเหลือง” บนเส้นผมที่ฟอกมาได้อีกด้วย การใช้ A6 ผสมกับครีมนวดเพียงเล็กน้อยแล้วนำมาสระหรือหมักบนผมที่ฟอก จะช่วยปรับพื้นผมให้เป็นสีขาวนวลหรือเทาอ่อน ทำให้การลงสีเทาหรือสีพาสเทลอื่นๆ สวยตรงปกมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่อยากได้ผมสีม่วงเข้มๆ พื้นผมระดับ 7-8 ก็เพียงพอ แต่ถ้าอยากได้ม่วงสว่างหรือม่วงพาสเทล ต้องฟอกให้ได้ระดับ 9-10 ขึ้นไปค่ะ
คุณสมบัติเด่น
- เป็นแม่สีม่วงที่สามารถใช้ย้อมเดี่ยวหรือผสมกับสีอื่นได้
- ใช้ในการหักล้างประกายสีเหลืองบนผมฟอกได้อย่างดีเยี่ยม
- ให้สีม่วงที่สดและชัดเจน
- ระดับพื้นผมที่แนะนำ: ระดับ 7 ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความเข้ม-สว่างของสีม่วงที่ต้องการ
- สามารถนำไปผสมกับสีแดง A15 เพื่อสร้างสีม่วงแดงหรือมะฮอกกานีได้
5. Berina A30 สีช็อกโกแลตอ่อน (Light Chocolate)
กลับมาที่โทนสีคลาสสิกที่สวยตลอดกาลกับ A30 สีช็อกโกแลตอ่อน เป็นสีน้ำตาลโทนอุ่นที่ให้ความรู้สึกหวานละมุน นุ่มนวล ดูเป็นธรรมชาติเหมือนสีผมจริง แต่มีความสว่างและประกายที่สวยงามกว่า เป็นสีที่ย้อมแล้วช่วยให้ใบหน้าดูเด็กลงและอ่อนหวานขึ้นทันที เหมาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนสีผมให้ดูสว่างขึ้นแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องการสีที่โดดเด่นจนเกินไป สีนี้ทำได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องฟอกผม แค่มีพื้นผมเดิมที่ไม่ใช่สีดำสนิท ก็สามารถย้อมติดได้ง่ายๆ ให้ผลลัพธ์เป็นสีน้ำตาลช็อกโกแลตสวยๆ ที่ทำให้ผมดูสุขภาพดี มีน้ำหนัก เป็นอีกหนึ่งสีกันตายที่ใครทำก็รอดค่ะ
คุณสมบัติเด่น
- ให้สีน้ำตาลช็อกโกแลตโทนอุ่นที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ
- ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น
- ย้อมง่าย ไม่จำเป็นต้องฟอกผม (ยกเว้นผมดำสนิท)
- เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนผิวขาวเหลือง
- เป็นสียอดนิยมสำหรับคนที่เริ่มย้อมผมครั้งแรก
6. Berina A1 สีดำ (Black)
บางครั้งความสวยงามที่สุดก็มาจากความเรียบง่ายที่สุด A1 สีดำสนิท คือตัวเลือกสุดคลาสสิกสำหรับคนที่ต้องการความคมเข้ม มีเสน่ห์น่าค้นหา หรือสำหรับคนที่ต้องการย้อมปิดผมขาวหรือย้อมทับสีผมเดิมที่สว่างเกินไปให้กลับมาดูสุขภาพดี สีดำของเบอริน่าให้เม็ดสีที่แน่นและคมชัดมาก สามารถกลบทุกสีได้อย่างมิดชิด ทำให้เส้นผมดูเงางามและมีน้ำหนักขึ้นทันที การย้อมสีดำเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการรีเซ็ตสีผมทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังคือการย้อมดำจะทำให้การย้อมสีสว่างอื่นๆ ในอนาคตทำได้ยากมาก จำเป็นต้องผ่านการฟอกหลายรอบ ดังนั้นควรตัดสินใจให้ดีก่อนเลือกที่จะย้อมผมด้วยสีนี้ค่ะ
คุณสมบัติเด่น
- ให้สีดำสนิทที่คมชัดและเงางาม
- ปกปิดผมขาวและสีผมเดิมได้อย่างสมบูรณ์แบบ
- ทำให้ผมดูหนาและสุขภาพดีขึ้น
- เป็นสีที่ย้อมติดง่ายที่สุด ไม่ต้องเตรียมพื้นผมใดๆ
- ข้อควรระวัง: ทำให้การเปลี่ยนเป็นสีสว่างในอนาคตทำได้ยากมาก
7. Berina A16 สีสว่าง (Bright Red)
หากคุณคือสาวมั่นที่รักความร้อนแรงและโดดเด่น A16 สีสว่าง (ที่ให้ผลลัพธ์เป็นสีแดงสด) คือสีที่เกิดมาเพื่อคุณ! เฉดสีนี้ไม่ใช่สีแดงธรรมดา แต่เป็นสีแดงเพลิงที่สดและจัดจ้านถึงใจ ย้อมแล้วรับรองว่าทุกคนต้องเหลียวมอง เป็นสีที่ช่วยขับผิว โดยเฉพาะคนผิวขาวและผิวขาวเหลืองให้ดูมีเลือดฝาดและเจิดจรัสขึ้นมาทันที ความน่าสนใจของสีนี้คือความสว่างของสีจะขึ้นอยู่กับพื้นผมเดิมโดยตรง หากย้อมบนผมสีน้ำตาลธรรมชาติ จะได้เป็นสีน้ำตาลแดงเชอร์รี่ที่ดูสวยเซ็กซี่ แต่ถ้าอยากได้แดงสดแบบในชาร์ต จำเป็นต้องฟอกผมให้ได้ระดับ 7-8 ขึ้นไป เป็นสีที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนลุคให้เปรี้ยวซ่าและเต็มไปด้วยพลัง
คุณสมบัติเด่น
- ให้สีแดงที่สดและจัดจ้าน โดดเด่นสะดุดตา
- ช่วยขับผิวให้ดูสว่างและมีชีวิตชีวา
- ความสว่างของสีขึ้นอยู่กับพื้นผมเดิม ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่หลากหลาย
- ระดับพื้นผมที่แนะนำ: ผมธรรมชาติสำหรับโทนน้ำตาลแดง, ระดับ 7-8 สำหรับแดงสด
- สามารถนำไปผสมกับสีอื่นเพื่อเพิ่มประกายแดงได้
8. Berina A31 บลอนด์เขียวหม่นอ่อน (Blonde Grey Green)
นี่คืออีกหนึ่งสียอดฮิตสำหรับสายแฟชั่นที่ชอบโทนหม่นแต่เบื่อสีเทาแล้ว A31 บลอนด์เขียวหม่นอ่อน เป็นสีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงมาก เป็นการผสมผสานระหว่างสีบลอนด์, สีเทา และประกายเขียวหม่นๆ คล้ายสีของใบมะกอก (Olive) ให้ลุคที่ดูเท่ มีสไตล์ ไม่ซ้ำใคร และดูเป็นแฟชั่นนิสต้าตัวจริง สีนี้เมื่อโดนแสงจะเห็นประกายเขียวหม่นที่สวยงามมาก แต่ในที่ร่มจะดูคล้ายสีน้ำตาลหม่น เป็นสีที่มีมิติและน่าสนใจสุดๆ การจะทำสีนี้ให้สวยชัดจำเป็นต้องฟอกผมให้ได้พื้นสว่างระดับ 8-9 ขึ้นไป เพื่อให้ประกายเขียวหม่นสามารถแสดงผลได้อย่างเต็มที่ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากลองโทนสีหม่นแบบใหม่ๆ ค่ะ
คุณสมบัติเด่น
- ให้โทนสีบลอนด์หม่นเหลือบเขียวมะกอกที่มีเอกลักษณ์
- เป็นสีแฟชั่นที่ดูเท่ มีสไตล์ ไม่เหมือนใคร
- สีผมมีมิติที่น่าสนใจ เปลี่ยนไปตามสภาพแสง
- จำเป็นต้องฟอกสีผม: ต้องมีพื้นผมสว่างระดับ 8-9 ขึ้นไป
- เหมาะกับคนที่มีสไตล์เป็นของตัวเองและชอบความแตกต่าง
9. Berina A41 สีน้ำเงิน (Blue)
สำหรับคนที่อยากลองสีสันที่แฟนซีและลึกลับน่าค้นหา A41 สีน้ำเงิน คือคำตอบที่ใช่เลย! สีน้ำเงินเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสงบแต่ก็แฝงไปด้วยความเท่และความมั่นใจ การย้อมผมสีน้ำเงินเข้ม (Navy Blue) กำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงมาก เพราะเป็นสีที่ดูไม่สว่างจนเกินไป แต่เมื่อโดนแสงจะเห็นประกายสีน้ำเงินที่สวยงามจับใจ การจะย้อมสีนี้ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรมีพื้นผมที่สว่างระดับ 8 ขึ้นไป หากพื้นผมมีประกายเหลืองอยู่ อาจจะได้ผลลัพธ์เป็นสีเขียวน้ำทะเลแทน ดังนั้นการปรับพื้นผมให้สว่างและไม่มีสีเหลืองเจือปนจึงเป็นสิ่งสำคัญ หรืออีกทางเลือกคือใช้ A6 (สีม่วง) เล็กน้อยผสมลงไปเพื่อฆ่าไรเหลืองก่อนลงสีน้ำเงินค่ะ
คุณสมบัติเด่น
- ให้สีน้ำเงินที่ดูลึกลับ น่าค้นหา และทันสมัย
- เป็นสีแฟชั่นที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง
- สามารถสร้างลุคได้หลากหลายตั้งแต่ Navy Blue ไปจนถึงฟ้าสว่าง
- จำเป็นต้องฟอกสีผม: ระดับ 8 ขึ้นไป และควรไม่มีประกายเหลือง
- สามารถใช้เดี่ยวๆ หรือทำเป็นไฮไลท์ก็สวยงาม
10. Berina A2 สีน้ำตาลเข้ม (Dark Brown)
ปิดท้ายด้วยสีเบสิกที่คลาสสิกและใช้งานได้จริงที่สุด A2 สีน้ำตาลเข้ม เป็นสีที่เหมาะสำหรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย เป็นสีสุภาพที่สามารถทำได้ในทุกสถานการณ์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการย้อมปิดผมขาว หรือต้องการปรับสีผมที่สว่างเกินไปให้กลับมาดูเข้มขึ้นแต่ไม่ถึงกับดำสนิท ทำให้ใบหน้าดูคมชัดและผมดูสุขภาพดีขึ้นทันที A2 เป็นสีที่ย้อมติดง่ายมากบนทุกสภาพพื้นผม ไม่จำเป็นต้องฟอก และให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ดูไม่หลอกตา เป็นสีเริ่มต้นที่ดีสำหรับใครก็ตามที่อยากจะลองเปลี่ยนสีผม แต่ยังไม่กล้าทำสีที่สว่างมากนัก ถือเป็นอีกหนึ่งสีสามัญประจำบ้านที่ควรมีติดไว้เลยค่ะ
คุณสมบัติเด่น
- ให้สีน้ำตาลเข้มที่ดูเป็นธรรมชาติและสุภาพ
- เหมาะสำหรับการย้อมปิดผมขาวหรือปรับพื้นสีผมให้เข้มลง
- ย้อมติดง่ายบนทุกสภาพเส้นผม ไม่ต้องฟอก
- ช่วยให้ผมดูสุขภาพดีและเงางามขึ้น
- เป็นสีพื้นฐานที่ปลอดภัยและทำแล้วรอดทุกคน
ตารางเปรียบเทียบ 10 สีย้อมผมเบอริน่าสุดฮิต 2025
เพื่อให้เห็นภาพรวมและตัดสินใจเลือกสีที่ใช่ได้ง่ายขึ้น เราได้สรุปข้อมูลสำคัญของทั้ง 10 สีมาไว้ในตารางเปรียบเทียบนี้แล้วค่ะ
เบอร์สี | ชื่อสี | โทนสี | พื้นผมที่แนะนำ (ต้องฟอก) | จุดเด่น |
---|---|---|---|---|
A21 | เทาอ่อน | เทา / หม่น | ระดับ 9-10+ | สีเทาสุดฮิต เท่ มีสไตล์ |
A38 | บลอนด์อ่อนประกายหม่น | บลอนด์ / หม่น | ระดับ 8+ | สีบลอนด์หม่นสวยละมุน ขับผิว |
A46 | น้ำตาลอ่อนประกายหม่นเหลือบเทา | น้ำตาล / หม่นเทา | ระดับ 7-8 | น้ำตาลหม่นยอดฮิต ไม่ติดส้ม |
A6 | ม่วง | ม่วง / แฟชั่น | ระดับ 7+ | ใช้ฆ่าไรเหลือง หรือย้อมม่วงสด |
A30 | ช็อกโกแลตอ่อน | น้ำตาล / โทนอุ่น | ไม่ต้องฟอก | สีน้ำตาลธรรมชาติ ดูสุขภาพดี |
A1 | ดำ | ดำ / ธรรมชาติ | ไม่ต้องฟอก | ปิดผมขาวสนิท ทำให้ย้อมสีอื่นยาก |
A16 | สีสว่าง (แดงสด) | แดง / แฟชั่น | ระดับ 7-8 (สำหรับแดงสด) | สีแดงสดใส ร้อนแรง โดดเด่น |
A31 | บลอนด์เขียวหม่นอ่อน | บลอนด์ / เขียวหม่น | ระดับ 8-9 | สีเทรนดี้ มีเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใคร |
A41 | น้ำเงิน | น้ำเงิน / แฟชั่น | ระดับ 8+ | สีน้ำเงินเข้มลึกลับ น่าค้นหา |
A2 | น้ำตาลเข้ม | น้ำตาล / ธรรมชาติ | ไม่ต้องฟอก | สีสุภาพ ปิดผมขาวได้ดี |
บำรุงผมหลังทำสีอย่างไรให้สีติดทน ผมนุ่มสวย ไม่แห้งเสียเป็นไม้กวาด
ย้อมผมสีสวยๆ มาแล้ว ก็ต้องดูแลกันต่อให้ดีที่สุด เพื่อให้สีผมสวยสดใสติดทนนาน และที่สำคัญคือการฟื้นฟูสภาพเส้นผมไม่ให้แห้งเสียจากการทำเคมี นี่คือเคล็ดลับการบำรุงผมหลังใช้สีย้อมผมเบอริน่าที่คุณทำตามได้ง่ายๆ
- งดสระผม 48-72 ชั่วโมงหลังย้อม: เพื่อให้เม็ดสีได้เซ็ตตัวและเกาะติดกับเส้นผมได้อย่างเต็มที่ การรีบสระผมเร็วเกินไปจะทำให้สีหลุดออกง่ายขึ้น
- ใช้แชมพูและครีมนวดสำหรับผมทำสี: ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกออกแบบมาให้มีความอ่อนโยนและมีสารช่วยปกป้องเม็ดสี ไม่ให้ซีดจางเร็ว ควรหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีสารซัลเฟต (Sulfate) แรงๆ เพราะจะไปชะล้างสีผมออกไป
- ใช้แชมพูม่วง (สำหรับสีโทนหม่น/เทา): สำหรับคนที่ทำสีเทา สีบลอนด์หม่น หรือสีพาสเทล การใช้แชมพูม่วงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยรักษาสีให้หม่นสวย ไม่ติดเหลือง และยืดอายุสีผมได้นานขึ้น
- สระผมด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ: การสระผมด้วยน้ำร้อนจะทำให้เกล็ดผมเปิดและสีหลุดออกไปได้ง่าย ควรใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้องในการสระผมและล้างผมในน้ำสุดท้าย เพื่อช่วยปิดเกล็ดผม
- บำรุงล้ำลึกด้วยทรีทเม้นท์และมาสก์: หลังทำสี ผมจะต้องการความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ ควรใช้ทรีทเม้นท์หรือมาสก์บำรุงผมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อเติมความชุ่มชื้นและฟื้นฟูเส้นผมที่อ่อนแอให้กลับมานุ่มสลวย
- หลีกเลี่ยงความร้อน: พยายามลดการใช้ไดร์เป่าผม, เครื่องหนีบผม, หรือเครื่องม้วนผม หากจำเป็นต้องใช้ ควรใช้สเปรย์กันความร้อนทุกครั้ง
- ปกป้องผมจากแสงแดด: แสงแดดและรังสี UV เป็นตัวการทำร้ายสีผมให้ซีดจางและทำให้ผมแห้งเสีย ควรใส่หมวกหรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีสารกันแดดเมื่อต้องออกไปกลางแจ้งนานๆ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. สีย้อมผมเบอริน่า 1 กล่องใช้กับผมยาวแค่ไหน?
โดยทั่วไปแล้ว ผมสั้นระดับติ่งหูถึงคางอาจใช้แค่ 1 กล่องก็เพียงพอ, ผมยาวประบ่าควรใช้ 1-2 กล่อง, ผมยาวกลางหลังควรใช้ 2-3 กล่อง, และผมยาวและหนามากอาจต้องใช้ 3 กล่องขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความหนาของเส้นผมแต่ละคนด้วย แนะนำให้ซื้อเผื่อไว้ดีกว่าขาดค่ะ
2. ต้องกัดสีผมหรือฟอกสีผมก่อนย้อมเบอริน่าทุกสีไหม?
ไม่จำเป็นค่ะ หากคุณต้องการย้อมสีเข้ม เช่น สีดำ (A1), น้ำตาลเข้ม (A2), หรือสีน้ำตาลช็อกโกแลต (A30) บนพื้นผมธรรมชาติ ก็สามารถย้อมได้เลย แต่ถ้าหากคุณต้องการทำสีแฟชั่นสว่างๆ เช่น สีเทา (A21), สีบลอนด์หม่น (A38), หรือสีพาสเทลต่างๆ จำเป็นต้องฟอกสีผมให้อยู่ในระดับความสว่างที่เหมาะสมก่อน เพื่อให้ได้สีที่ตรงตามชาร์ตค่ะ
3. ผสมสีย้อมผมเบอริน่าข้ามเบอร์ได้หรือไม่?
ได้แน่นอนค่ะ นี่คือจุดเด่นและความสนุกของการใช้สีย้อมผมเบอริน่าเลยก็ว่าได้ คุณสามารถสร้างสรรค์เฉดสีใหม่ๆ ได้ด้วยตัวเอง เช่น การผสม A38 (บลอนด์อ่อนประกายหม่น) กับ A21 (เทาอ่อน) เพื่อให้ได้สีบลอนด์เทาที่หม่นยิ่งขึ้น หรือผสม A6 (ม่วง) เล็กน้อยลงในสีอื่นเพื่อหักล้างประกายเหลือง แนะนำให้ทดลองผสมในอัตราส่วนน้อยๆ ก่อนเพื่อดูผลลัพธ์ของสีที่ได้ค่ะ
4. สีย้อมผมเบอริน่าติดทนนานแค่ไหน?
ความติดทนของสีขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสภาพเส้นผม, สีที่เลือกใช้, และการดูแลหลังทำสี โดยทั่วไปสีเข้มอย่างดำหรือน้ำตาลจะติดทนทานนานหลายเดือน ส่วนสีแฟชั่นอย่างเทา, แดง, หรือน้ำเงิน อาจจะเริ่มซีดจางลงหลังสระไปประมาณ 2-4 สัปดาห์ การใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสีและทำตามคำแนะนำในการบำรุงผม จะช่วยยืดอายุของสีผมให้สวยสดใสได้นานขึ้นค่ะ
บทสรุป
สีย้อมผมเบอริน่า ยังคงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมและคุ้มค่าที่สุดสำหรับใครก็ตามที่ต้องการเปลี่ยนสีผมด้วยตัวเองในปี 2025 ด้วยราคาที่จับต้องได้ง่าย มีเฉดสีให้เลือกมากมายตั้งแต่สีธรรมชาติไปจนถึงสีแฟชั่นสุดจี๊ดจ๊าด ทำให้การสร้างสรรค์ลุคใหม่ๆ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป จากรีวิว 10 สียอดฮิตที่เรานำมาฝาก จะเห็นได้ว่าเบอริน่ามีครบทุกโทนสีที่ตอบโจทย์ทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสายหวาน สายเท่ หรือสายเปรี้ยวซ่า
หัวใจสำคัญที่สุดที่จะทำให้การย้อมผมของคุณประสบความสำเร็จ คือการ “เตรียมผม” ให้พร้อม และ “บำรุงหลังทำสี” อย่างถูกวิธี การฟอกสีผมให้ได้ระดับความสว่างที่เหมาะสมคือกุญแจสู่สีแฟชั่นที่ตรงปก ในขณะที่การดูแลเอาใจใส่ด้วยทรีทเม้นท์และการหลีกเลี่ยงปัจจัยทำร้ายเส้นผม จะช่วยให้สีสวยๆ ของคุณติดทนนานและผมไม่แห้งเสีย หวังว่าบทความนี้จะเป็นคู่มือชั้นดีที่ช่วยให้ทุกคนสนุกกับการเปลี่ยนสีผมด้วยเบอริน่าได้อย่างมั่นใจและได้ผลลัพธ์ที่สวยงามตรงใจนะคะ!
Image by: