แดดประเทศไทยที่ร้อนระอุแทบจะตลอดทั้งปี ทำให้ “ครีมกันแดด” กลายเป็นไอเทมสำคัญที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน แต่หลายคนมักให้ความสำคัญกับการปกป้องผิวหน้า จนอาจลืมไปว่าผิวกายของเราก็ต้องการการดูแลและปกป้องจากรังสี UV ไม่แพ้กัน การเผชิญแสงแดดโดยไม่มีเกราะป้องกัน ไม่เพียงแต่จะทำให้ผิวคล้ำเสีย ไม่สม่ำเสมอ แต่ยังเร่งให้ผิวแก่ก่อนวัย เกิดริ้วรอย และที่อันตรายที่สุดคือเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสายกิจกรรมที่ชื่นชอบการออกกำลังกายกลางแจ้ง ว่ายน้ำ หรือไปเที่ยวทะเล การเลือกครีมกันแดดทาตัวที่ใช่จึงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
แต่การจะหา ครีมกันแดดทาตัว ยี่ห้อไหนดี ที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ ทั้งค่า SPF สูงๆ ความสามารถในการกันน้ำ กันเหงื่อ เนื้อสัมผัสดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ และเหมาะกับสภาพผิวของเรานั้น อาจเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวไม่น้อย ในบทความนี้ soodd.com ได้ทำหน้าที่คัดสรรและรวบรวมข้อมูลมาให้คุณแล้ว เราจะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุมของการเลือกกันแดดทาตัว พร้อมจัดอันดับ 10 สุดยอดครีมกันแดดทาตัวที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุด เพื่อให้คุณพร้อมท้าแดดได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์
ทำไมครีมกันแดดทาตัวถึงสำคัญกว่าที่คิด? ปกป้องผิวสวยรับทุกสถานการณ์
หลายคนอาจคิดว่าแค่ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หรือหลีกเลี่ยงการออกแดดจัดๆ ก็เพียงพอแล้ว แต่ความจริงคือรังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet) หรือรังสี UV จากดวงอาทิตย์นั้นสามารถทะลุผ่านเสื้อผ้าบางๆ และกระจกได้ และมันไม่ได้ทำร้ายผิวเราแค่ในวันที่แดดจ้าเท่านั้น แม้ในวันที่มีเมฆมาก รังสี UV ก็ยังคงอยู่และพร้อมทำร้ายผิวเราได้เสมอ การทำความเข้าใจศัตรูตัวฉกาจของผิวอย่างรังสี UV จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการปกป้องผิว
รังสี UV ที่เราต้องรับมือมีอยู่ 2 ชนิดหลักๆ คือ:
- รังสี UVA (Aging Rays): เป็นรังสีที่มีช่วงคลื่นยาว สามารถทะลุเข้าสู่ชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ได้ เป็นตัวการหลักที่ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอยก่อนวัย และเป็นสาเหตุของฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่น่ากลัวคือเราไม่รู้สึกเจ็บปวดเมื่อโดนรังสี UVA แต่มันจะทำร้ายผิวเราอย่างเงียบๆ
- รังสี UVB (Burning Rays): เป็นรังสีที่มีช่วงคลื่นสั้นกว่า จะส่งผลกระทบที่ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวไหม้แดด (Sunburn) แสบแดง และหากได้รับในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง
ผิวกายของเราซึ่งมีพื้นที่มากกว่าผิวหน้าหลายเท่าตัว ย่อมมีโอกาสสัมผัสกับรังสีเหล่านี้ได้มากกว่า การละเลยการทาครีมกันแดดทาตัวจึงเท่ากับเป็นการเปิดประตูให้ปัญหาผิวต่างๆ เข้ามาทำร้ายเราได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผิวบริเวณแขน ขา ลำคอ หรือแผ่นหลัง ล้วนต้องการเกราะป้องกันที่มีประสิทธิภาพไม่ต่างจากผิวหน้าเลย การทาครีมกันแดดทาตัวเป็นประจำจึงไม่ใช่แค่เรื่องของความงาม แต่เป็นเรื่องของสุขภาพผิวในระยะยาว
ถอดรหัสฉลากครีมกันแดดทาตัว: SPF, PA, Broad-Spectrum คืออะไร?
การเลือกซื้อครีมกันแดดเปรียบเสมือนการอ่านโค้ดลับบนผลิตภัณฑ์ หากเราเข้าใจความหมายของสัญลักษณ์ต่างๆ ก็จะสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับเราที่สุดได้ มาถอดรหัสค่าสำคัญๆ ที่พบบนฉลากครีมกันแดดกันดีกว่า
SPF (Sun Protection Factor)
SPF คือค่าที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVB ซึ่งเป็นสาเหตุของผิวไหม้แดด ตัวเลขที่ต่อท้าย SPF ไม่ได้หมายความว่ายิ่งสูงจะยิ่งดีแบบทวีคูณ แต่เป็นการบอกระยะเวลาที่ผิวจะทนต่อแดดได้นานขึ้นเมื่อเทียบกับตอนที่ไม่ได้ทา เช่น ถ้าปกติผิวคุณจะเริ่มแดงเมื่อตากแดด 15 นาที การทาครีมกันแดด SPF 50 จะช่วยยืดระยะเวลานั้นออกไปเป็น 15 x 50 = 750 นาที อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงค่าในทฤษฎี ในชีวิตจริงประสิทธิภาพจะลดลงจากเหงื่อ การเสียดสี จึงจำเป็นต้องทาซ้ำ
- SPF 30: ป้องกันรังสี UVB ได้ประมาณ 97%
- SPF 50: ป้องกันรังสี UVB ได้ประมาณ 98%
- SPF 50+: ป้องกันรังสี UVB ได้มากกว่า 98% ขึ้นไป
สำหรับแดดในประเทศไทย การเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมและให้การปกป้องที่ครอบคลุม
PA (Protection Grade of UVA)
ในขณะที่ SPF ดูแลเรื่องรังสี UVB ค่า PA คือมาตรวัดประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA ตัวการทำลายคอลลาเจนและสร้างริ้วรอย โดยจะแสดงด้วยเครื่องหมายบวก (+) ยิ่งมีจำนวนบวกมากเท่าไหร่ ยิ่งป้องกันรังสี UVA ได้ดีขึ้นเท่านั้น
- PA+: สามารถป้องกันรังสี UVA ได้
- PA++: ป้องกันรังสี UVA ได้ในระดับกลาง
- PA+++: ป้องกันรังสี UVA ได้ในระดับสูง
- PA++++: ป้องกันรังสี UVA ได้ในระดับสูงสุด
เพื่อการปกป้องผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรมองหาครีมกันแดดที่มีค่า PA+++ หรือ PA++++
Broad-Spectrum และ Water Resistant
Broad-Spectrum: คือคุณสมบัติสำคัญที่บอกว่าครีมกันแดดขวดนั้นสามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB ควรมองหาสัญลักษณ์นี้เสมอเพื่อให้แน่ใจว่าผิวของคุณได้รับการปกป้องอย่างครบถ้วน
Water Resistant / Very Water Resistant: สำหรับสายกิจกรรมทางน้ำหรือคนเหงื่อออกเยอะ คุณสมบัตินี้สำคัญมาก โดยจะบอกว่าครีมกันแดดยังคงประสิทธิภาพอยู่ได้นานเท่าไหร่หลังจากสัมผัสน้ำหรือเหงื่อ
- Water Resistant: กันแดดจะยังคงประสิทธิภาพตามค่า SPF ได้นาน 40 นาทีในน้ำ
- Very Water Resistant: กันแดดจะยังคงประสิทธิภาพตามค่า SPF ได้นาน 80 นาทีในน้ำ
สิ่งสำคัญคือ ไม่มีครีมกันแดดชนิดใดที่ “Waterproof” (กันน้ำได้ 100%) ดังนั้น หลังจากครบกำหนดเวลาหรือเช็ดตัวแล้ว ควรทาซ้ำทุกครั้ง
เลือกเนื้อครีมกันแดดทาตัวแบบไหนให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และสภาพผิว?
นอกจากค่าการป้องกันแล้ว “เนื้อสัมผัส” (Texture) ของครีมกันแดดก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราอยากจะหยิบขึ้นมาใช้ทุกวัน การเลือกเนื้อที่ใช่จะช่วยให้การทากันแดดไม่เป็นเรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป
- เนื้อโลชั่น (Lotion): เป็นเนื้อที่ได้รับความนิยมสูงสุด เกลี่ยง่าย ให้ความชุ่มชื้นได้ดี เหมาะสำหรับคนผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง และเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
- เนื้อครีม (Cream): มีความเข้มข้นสูง ให้ความชุ่มชื้นได้มากที่สุด เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งมาก หรือใช้ในสภาพอากาศที่แห้งและเย็น
- เนื้อเจล (Gel): เนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ ให้ความรู้สึกสบายผิว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนผิวมัน ผิวผสม หรือใช้ในวันที่อากาศร้อนชื้น
- เนื้อสเปรย์ (Spray): ใช้งานสะดวก รวดเร็ว สามารถฉีดซ้ำระหว่างวันได้ง่าย เหมาะสำหรับทาในบริเวณที่เข้าถึงยาก เช่น แผ่นหลัง หรือสำหรับเติมระหว่างทำกิจกรรมกลางแจ้ง แต่ต้องระวังฉีดให้ทั่วถึงและสม่ำเสมอ
- เนื้อเซรั่ม (Serum): มีความบางเบาคล้ายเจลแต่มักจะมีส่วนผสมของสารบำรุงผิวที่เข้มข้นกว่า ซึมไว ไม่ทิ้งคราบขาว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทั้งการป้องกันแดดและการบำรุงในขั้นตอนเดียว
การเลือกเนื้อสัมผัสที่เหมาะกับสภาพผิวและกิจกรรม จะทำให้คุณรู้สึกสบายตัวและมีความสุขกับการปกป้องผิวในทุกๆ วัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการมีสุขภาพผิวที่ดีในระยะยาว
10 อันดับ ครีมกันแดดทาตัว ยี่ห้อไหนดี 2024 ปกป้องผิวขั้นสุด กันน้ำ กันเหงื่อ
และแล้วก็มาถึงส่วนที่ทุกคนรอคอย soodd.com ได้คัดเลือกและจัดอันดับ 10 ครีมกันแดดทาตัวที่โดดเด่นในด้านประสิทธิภาพการกันแดดสูง การกันน้ำ กันเหงื่อ และมีเนื้อสัมผัสที่น่าใช้ เพื่อเป็นแนวทางให้คุณได้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่ที่สุด
1. ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk N SPF50+ PA++++
ยกให้เป็นราชาแห่งครีมกันแดดที่ครองใจใครหลายคนมาอย่างยาวนาน Anessa ขวดสีทองในตำนานนี้ไม่ได้มีดีแค่ค่ากันแดดสูงสุด แต่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอย่าง Auto Booster Technology ที่เมื่อผิวสัมผัสกับความร้อน เหงื่อ หรือน้ำ เกราะป้องกันผิวจากรังสี UV จะยิ่งแข็งแกร่งและเรียบเนียนสม่ำเสมอขึ้น เนื้อสัมผัสแบบน้ำนมบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมซาบสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ทิ้งคราบขาวหรือความเหนียวเหนอะหนะ ให้ความรู้สึกสบายผิวขั้นสุด นอกจากนี้ยังผสานส่วนผสมบำรุงผิวถึง 50% ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและต่อต้านอนุมูลอิสระไปในตัว เรียกได้ว่าเป็นกันแดดที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกกิจกรรม ตั้งแต่การใช้ในชีวิตประจำวันไปจนถึงกิจกรรมกลางแจ้งสุดโหดอย่างการไปทะเลหรือเล่นกีฬา เหมาะสำหรับคนที่มองหาการปกป้องขั้นสุดยอดที่ไม่ประนีประนอมต่อคุณภาพและเนื้อสัมผัส
คุณสมบัติเด่น
- ค่าการป้องกัน: SPF50+ PA++++ (Broad-Spectrum)
- เทคโนโลยี: Auto Booster Technology เพิ่มประสิทธิภาพเกราะป้องกันเมื่อเจอความร้อน ความชื้น เหงื่อ และน้ำ
- การกันน้ำ/กันเหงื่อ: Very Water Resistant (กันน้ำนาน 80 นาที) และมี Friction Resistant ป้องกันการหลุดลอกจากแรงเสียดสี
- เนื้อสัมผัส: เนื้อน้ำนม (Milk) บางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- ส่วนผสมบำรุง: มีสารบำรุงผิว 50% เช่น คอลลาเจน, ซูเปอร์ ไฮยาลูรอนิก แอซิด, สารสกัดจากชาเขียว
- ความพิเศษ: ใช้เป็นไพรเมอร์ก่อนแต่งหน้าได้ และล้างออกง่ายด้วยสบู่หรือโฟมล้างหน้า
2. NIVEA Sun Protect & Dry Touch Refreshing Sun Spray SPF50
สำหรับใครที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และความรู้สึกเย็นสบายผิว NIVEA Sun Spray ขวดนี้คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ด้วยรูปแบบสเปรย์ที่ใช้งานง่าย เพียงแค่ฉีดก็สามารถปกป้องผิวได้อย่างทั่วถึง แม้ในบริเวณที่เอื้อมถึงยากอย่างแผ่นหลัง จุดเด่นของรุ่นนี้คือเทคโนโลยี “Protect & Dry Touch” ที่ให้เนื้อสัมผัสแห้งทันทีหลังฉีด ไม่ทิ้งความมันหรือความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิว พร้อมมอบความรู้สึกเย็นสดชื่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพอากาศร้อนของเมืองไทย หรือใช้ฉีดซ้ำระหว่างวันทับเมคอัพหรือระหว่างเล่นกีฬา สูตรนี้ยังกันน้ำได้ดี ทำให้คุณสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างไร้กังวล เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่มองหาครีมกันแดดทาตัวที่ใช้งานง่ายและให้ความรู้สึกสบายผิวเป็นพิเศษ
คุณสมบัติเด่น
- ค่าการป้องกัน: SPF50 PA+++ (Broad-Spectrum)
- เทคโนโลยี: Protect & Dry Touch ให้สัมผัสแห้งสบายผิวทันทีหลังใช้
- การกันน้ำ/กันเหงื่อ: Water Resistant
- เนื้อสัมผัส: เนื้อสเปรย์ (Spray) โปร่งใส แห้งเร็ว ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น
- ส่วนผสมบำรุง: มีส่วนผสมของวิตามินอี ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
- ความพิเศษ: ใช้งานง่ายและรวดเร็ว เหมาะสำหรับฉีดเติมระหว่างวัน
3. Biore UV Anti-Pollution Body Care Serum Intensive White SPF50+ PA+++
Biore เป็นอีกแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องกันแดดคุณภาพเยี่ยมในราคาที่เข้าถึงง่าย และสำหรับกันแดดทาตัวรุ่นนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ชูจุดเด่นด้วยการเป็น “กันแดดเนื้อเซรั่ม” ที่มอบความบางเบาเหมือนไม่ได้ทา พร้อมนวัตกรรม “Anti-Pollution Shield” สร้างเกราะป้องกันผิวจากฝุ่นควันและมลภาวะที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน เหมาะมากสำหรับคนเมืองโดยเฉพาะ นอกจากป้องกันแดดและมลภาวะแล้ว ยังมีคุณสมบัติบำรุงผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นด้วยวิตามินบี 3 และสารสกัดจากส้มยูซุ เนื้อเซรั่มซึมไว ไม่เหนียวตัว ให้ความรู้สึกสบายผิวตลอดวัน ทำให้หลายคนยกให้เป็นกันแดดทาตัวสำหรับใช้ทุกวัน (Daily Use) ที่ดีที่สุดตัวหนึ่ง เพราะตอบโจทย์ทั้งการปกป้อง การบำรุง และราคาที่น่าคบหา
คุณสมบัติเด่น
- ค่าการป้องกัน: SPF50+ PA+++
- เทคโนโลยี: Anti-Pollution Shield ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ฝุ่น และควัน
- การกันน้ำ/กันเหงื่อ: มีคุณสมบัติกันน้ำและกันเหงื่อ
- เนื้อสัมผัส: เนื้อเซรั่ม (Serum) บางเบาพิเศษ ซึมเร็ว ไม่ทิ้งคราบขาว
- ส่วนผสมบำรุง: Vitamin B3 และสารสกัดจาก Yuzu Orange ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และมี Moisturizing Pack ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น
- ความพิเศษ: เป็นกันแดดบำรุงผิวที่เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันอย่างยิ่ง
4. Banana Boat Sport Ultra Sunscreen Lotion SPF50+ PA++++
เมื่อพูดถึงกันแดดสำหรับสายสปอร์ตหรือกิจกรรมกลางแจ้งหนักๆ ชื่อของ Banana Boat ต้องขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ เสมอ และรุ่น Sport Ultra นี้ก็ถูกออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ด้วยประสิทธิภาพการกันแดดสูงและการยึดเกาะผิวที่ดีเยี่ยมภายใต้สภาวะสุดขั้ว ทั้งเหงื่อและน้ำ เนื้อโลชั่นมีความเข้มข้นแต่เกลี่ยง่าย ไม่ไหลเยิ้มเข้าตาเมื่อเหงื่อออก มาพร้อมเทคโนโลยี AvoTriplex™ ที่ช่วยให้การป้องกันแสงแดดมีความเสถียรและยาวนานขึ้น สูตรนี้ปราศจากน้ำหอมและน้ำมัน จึงไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เป็นเพื่อนแท้สำหรับนักวิ่ง นักปั่นจักรยาน นักว่ายน้ำ หรือใครก็ตามที่รักการใช้ชีวิตแอคทีฟกลางแจ้ง และต้องการความมั่นใจสูงสุดว่าผิวจะได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่
คุณสมบัติเด่น
- ค่าการป้องกัน: SPF50+ PA++++ (Broad-Spectrum)
- เทคโนโลยี: AvoTriplex™ ช่วยให้กันแดดติดทนยาวนาน ไม่สลายตัวเร็วเมื่อเจอแดด
- การกันน้ำ/กันเหงื่อ: Very Water Resistant (กันน้ำและเหงื่อนาน 80 นาที)
- เนื้อสัมผัส: เนื้อโลชั่น (Lotion) เข้มข้นแต่ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- ความพิเศษ: ออกแบบมาเพื่อกิจกรรมกีฬาโดยเฉพาะ ไม่ไหลเข้าตาเมื่อเหงื่อออก (Tear-Free) และเป็นสูตร Reef Friendly ไม่ทำร้ายปะการัง
- ส่วนผสม: ปราศจาก Oxybenzone, Octinoxate และน้ำมัน
5. La Roche-Posay Anthelios XL Dry Touch Gel-Cream SPF50+
เวชสำอางจากฝรั่งเศสที่แพทย์ผิวหนังทั่วโลกแนะนำ La Roche-Posay ขึ้นชื่อเรื่องผลิตภัณฑ์สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย และกันแดดรุ่น Anthelios XL Dry Touch ก็เป็นที่เลื่องลือในกลุ่มคนผิวมันและเป็นสิวง่าย แม้จะถูกออกแบบมาสำหรับผิวหน้า แต่ด้วยคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม หลายคนจึงนิยมนำมาใช้กับผิวกายโดยเฉพาะบริเวณลำคอและหน้าอกที่มักเกิดสิวได้ง่าย จุดเด่นคือเนื้อสัมผัสแบบเจล-ครีมที่บางเบา และเทคโนโลยี AIRLICIUM™ ที่ช่วยควบคุมความมันได้ยาวนาน ให้ฟินิชแบบแมทท์ ไม่มันวาว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic) ใครที่กังวลว่าทากันแดดทาตัวแล้วจะเหนียวตัวหรือทำให้เป็นสิวที่หลัง ต้องลองตัวนี้เลย
คุณสมบัติเด่น
- ค่าการป้องกัน: SPF50+ (PPD 42 ซึ่งสูงมากในการป้องกัน UVA) (Broad-Spectrum)
- เทคโนโลยี: AIRLICIUM™ ช่วยดูดซับความมันส่วนเกินและเหงื่อ ให้ผิวรู้สึกแห้งสบาย
- การกันน้ำ/กันเหงื่อ: Very Water Resistant
- เนื้อสัมผัส: เนื้อเจล-ครีม (Gel-Cream) แห้งเร็ว ให้ผิวสัมผัสแบบแมทท์
- ความพิเศษ: เหมาะสำหรับผิวมันและผิวมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย, Non-comedogenic, Hypoallergenic, ผ่านการทดสอบภายใต้การควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
- ส่วนผสม: ปราศจากน้ำหอมและพาราเบน
6. MizuMi UV Water Defense Pro SPF50+ PA++++
แบรนด์ไทยที่เข้าใจผิวคนไทยเป็นอย่างดี MizuMi สร้างชื่อจากผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ สำหรับกันแดดทาตัวรุ่นนี้เป็นสูตรกันน้ำที่โดดเด่นด้วยการเป็นกันแดดแบบ 100% Physical (Non-chemical) ใช้เพียง Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ในการสะท้อนรังสี UV จึงลดโอกาสการระคายเคืองได้เป็นอย่างดี เนื้อสัมผัสบางเบาเหมือนน้ำ แตกตัวเมื่อทาลงบนผิว ซึมไว ไม่ทิ้งคราบขาวกวนใจ และไม่เหนียวเหนอะหนะเลยแม้แต่น้อย ผ่านการทดสอบแล้วว่ากันน้ำได้ยาวนานถึง 80 นาที และยังเป็นสูตรที่ปลอดภัยต่อปะการัง (Reef-Safe) อีกด้วย เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายมากๆ หรือคนที่ต้องการกันแดด Physical ประสิทธิภาพสูงที่เนื้อดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
คุณสมบัติเด่น
- ค่าการป้องกัน: SPF50+ PA++++
- ประเภทกันแดด: 100% Physical Sunscreen (ใช้ ZT-Shield™ Technology)
- การกันน้ำ/กันเหงื่อ: Very Water Resistant (กันน้ำนาน 80 นาที)
- เนื้อสัมผัส: เนื้อสัมผัสแบบน้ำ (Watery texture) บางเบา สบายผิว ไม่ทิ้งคราบ
- ความพิเศษ: สูตร 5-FREE ปราศจากน้ำมัน, น้ำหอม, แอลกอฮอล์, พาราเบน และสีสังเคราะห์, เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายมาก, Reef-Safe
- ส่วนผสมบำรุง: มีสารสกัดจาก Uji Tea, Vitamin C, และ Vitamin E ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
7. Supergoop! PLAY Everyday Lotion SPF 50 with Sunflower Extract
แบรนด์กันแดดชื่อดังจากอเมริกาที่เน้นเรื่อง “Clean Beauty” และทำให้การทากันแดดเป็นเรื่องสนุก รุ่น PLAY Everyday Lotion เป็นรุ่นยอดนิยมที่ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย เนื้อโลชั่นบางเบาและให้ความชุ่มชื้นสูง ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ทิ้งคราบขาวหรือความรู้สึกมันเยิ้ม มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกสดชื่น เป็นสูตรที่ทนน้ำและเหงื่อได้ดี จึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์แอคทีฟ นอกจากจะปกป้องผิวจากรังสี UV แล้ว ยังอุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผิว เช่น สารสกัดจากดอกทานตะวันที่ช่วยปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอก และสารสกัดจากโรสแมรี่ที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นกันแดดที่ให้ความรู้สึกดีทั้งตอนทาและส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อผิว
คุณสมบัติเด่น
- ค่าการป้องกัน: SPF 50 PA++++ (Broad-Spectrum)
- การกันน้ำ/กันเหงื่อ: Water & Sweat Resistant (นาน 80 นาที)
- เนื้อสัมผัส: เนื้อโลชั่น (Lotion) บางเบา ให้ความชุ่มชื้นสูง ซึมไว
- ความพิเศษ: เป็นสูตร Clean Chemical, Reef-Safe, Cruelty-Free, ปราศจาก Oxybenzone และ Octinoxate
- ส่วนผสมบำรุง: สารสกัดจากดอกทานตะวัน, ใบและดอกโรสแมรี่, รำข้าว
- กลิ่น: มีกลิ่นหอมสดชื่นจากธรรมชาติ (ไม่ใช่กลิ่นกันแดดทั่วไป)
8. Eucerin Sun Allergy Protect Sun Creme-Gel SPF50+
อีกหนึ่งตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมจากเวชสำอางเยอรมันสำหรับผู้ที่มีผิวไวต่อแดดหรือมีอาการแพ้แดดโดยเฉพาะ Eucerin Sun Allergy Protect ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อปกป้องผิวจากอาการแพ้ที่เกิดจากแสงแดด (Sun-induced allergies) เช่น ผดผื่นคัน (PLE) ด้วยเทคโนโลยี Advanced Spectral Technology ที่ปกป้องผิวได้ทั้งรังสี UVA/UVB และแสงสีฟ้า (HEVIS Light) พร้อมด้วยสาร Alpha-Glucosylrutin (AGR) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติที่ช่วยลดโอกาสการเกิดภูมิแพ้แดด เนื้อครีมเจลบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะและกันน้ำได้ดี ปราศจากน้ำหอมและสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง จึงมั่นใจได้ในความอ่อนโยน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีประวัติแพ้แดดหรือผิวบอบบางมากๆ
คุณสมบัติเด่น
- ค่าการป้องกัน: SPF50+ (Broad-Spectrum + HEVIS Light Protection)
- เทคโนโลยี: Advanced Spectral Technology และ Alpha-Glucosylrutin (AGR) ช่วยป้องกันการแพ้แดด
- การกันน้ำ/กันเหงื่อ: Water Resistant
- เนื้อสัมผัส: เนื้อครีม-เจล (Creme-Gel) ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบ
- ความพิเศษ: ออกแบบมาเพื่อผิวแพ้ง่ายและผิวที่มีแนวโน้มแพ้แดดโดยเฉพาะ
- ส่วนผสม: ปราศจากน้ำหอม, สี และสารกันเสีย
9. Cancer Council Active Sunscreen SPF50+ PA++++
กันแดดสัญชาติออสเตรเลียที่น่าเชื่อถือมากที่สุดแบรนด์หนึ่ง เพราะรายได้จากการจำหน่ายนำไปสนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็งผิวหนัง Cancer Council Active ถูกออกแบบมาเพื่อไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง ด้วยสูตรที่ทนเหงื่อและกันน้ำได้ยาวนานถึง 4 ชั่วโมง (ต้องทาซ้ำตามคำแนะนำ) ซึ่งถือว่ายาวนานกว่าแบรนด์ทั่วไป เนื้อโลชั่นเกลี่ยง่าย ซึมซาบได้ดี ให้การปกป้องที่ครอบคลุมและเสถียรภายใต้แสงแดดจัดจ้าของออสเตรเลีย ซึ่งรับประกันได้ว่าสามารถรับมือกับแดดเมืองไทยได้อย่างสบายๆ เป็นกันแดดที่เน้นประสิทธิภาพการปกป้องเป็นหลัก ให้ความรู้สึกมั่นใจสูงสุดเมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานๆ
คุณสมบัติเด่น
- ค่าการป้องกัน: SPF50+ PA++++ (Broad-Spectrum)
- การกันน้ำ/กันเหงื่อ: Tested for 4 hours water resistance (ทดสอบการกันน้ำนาน 4 ชั่วโมง)
- เนื้อสัมผัส: เนื้อโลชั่น (Lotion) ที่ออกแบบมาให้ยึดเกาะผิวได้ดี
- ความพิเศษ: แบรนด์ที่น่าเชื่อถือสูงจากองค์กรด้านมะเร็งผิวหนังของออสเตรเลีย, ให้การปกป้องสูงและยาวนาน
- ส่วนผสม: ปราศจากพาราเบน และผ่านการทดสอบทางผิวหนัง
10. Vaseline Healthy Bright Daily Protection & Brightening Serum SPF50+ PA++++
ปิดท้ายด้วยกันแดดทาตัวที่คุ้มค่าคุ้มราคาและหาซื้อง่ายที่สุดจาก Vaseline ที่ไม่ได้มีดีแค่การป้องกันแสงแดด แต่ยังเป็นเซรั่มบำรุงผิวที่ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น 2 เท่าใน 2 สัปดาห์ ด้วยสูตร “ไบรท์เทนนิ่ง ไนอาซินาไมด์ พรีไบโอติก” เนื้อเซรั่มบางเบาและเย็นสดชื่น ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทำให้สามารถทาได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกรำคาญใจ แม้การกันน้ำอาจไม่โดดเด่นเท่ารุ่นอื่นๆ ในลิสต์ แต่ด้วย SPF50+ PA++++ ก็ให้การปกป้องที่เพียงพอสำหรับกิจกรรมในชีวิตประจำวัน การเดินทางไปทำงาน หรือการเดินเล่นนอกอาคาร ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่มองหากันแดดทาตัวราคาประหยัดที่ให้ทั้งการป้องกันและบำรุงผิวไปพร้อมกัน
คุณสมบัติเด่น
- ค่าการป้องกัน: SPF50+ PA++++
- เทคโนโลยี: สูตร Cooling Serum ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น, พร้อมเทคโนโลยีกลูต้าโกลว์ ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าวิตามินซี 10 เท่า
- การกันน้ำ/กันเหงื่อ: เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน (ไม่ได้เน้นการกันน้ำเป็นพิเศษ)
- เนื้อสัมผัส: เนื้อเซรั่ม (Serum) บางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ
- ความพิเศษ: ราคาเข้าถึงง่าย, เป็นทั้งกันแดดและเซรั่มผิวกระจ่างใสในหนึ่งเดียว
- ส่วนผสมบำรุง: ไนอาซินาไมด์, วิตามินซี, วิตามินอี, วาสลีนเจลลี่
ตารางเปรียบเทียบ 10 ครีมกันแดดทาตัว ยี่ห้อไหนดี
เพื่อให้เห็นภาพรวมและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เราได้สรุปข้อมูลสำคัญของครีมกันแดดทาตัวทั้ง 10 ยี่ห้อมาไว้ในตารางเดียว
ยี่ห้อ | ค่า SPF/PA | คุณสมบัติกันน้ำ/เหงื่อ | เนื้อสัมผัส | เหมาะกับ | จุดเด่น |
---|---|---|---|---|---|
1. ANESSA Skincare Milk | SPF50+ PA++++ | Very Water Resistant (80 นาที) | น้ำนม | ทุกสภาพผิว, กิจกรรมหนัก | เทคโนโลยี Auto Booster |
2. NIVEA Sun Spray | SPF50 PA+++ | Water Resistant | สเปรย์ | ผิวมัน, ชอบความเร็ว | แห้งเร็ว เย็นสบายผิว |
3. Biore Body Serum | SPF50+ PA+++ | กันน้ำและเหงื่อ | เซรั่ม | ใช้ทุกวัน, คนเมือง | ป้องกันมลภาวะ |
4. Banana Boat Sport | SPF50+ PA++++ | Very Water Resistant (80 นาที) | โลชั่น | เล่นกีฬา, กิจกรรมทางน้ำ | ทนเหงื่อสูง ไม่ไหลเข้าตา |
5. La Roche-Posay Dry Touch | SPF50+ | Very Water Resistant | เจล-ครีม | ผิวมัน, เป็นสิวง่าย | ควบคุมความมัน ผิวแมทท์ |
6. MizuMi Water Defense | SPF50+ PA++++ | Very Water Resistant (80 นาที) | น้ำ | ผิวแพ้ง่ายมาก | กันแดด Physical 100% |
7. Supergoop! PLAY | SPF 50 PA++++ | Water & Sweat Resistant (80 นาที) | โลชั่น | ทุกสภาพผิว, ชอบคลีนบิวตี้ | ชุ่มชื้นสูง Reef-Safe |
8. Eucerin Sun Allergy | SPF50+ | Water Resistant | ครีม-เจล | ผิวไวต่อแดด, แพ้แดด | ลดโอกาสการแพ้แดด |
9. Cancer Council Active | SPF50+ PA++++ | กันน้ำนาน 4 ชั่วโมง | โลชั่น | กิจกรรมกลางแจ้งนานๆ | ป้องกันสูงและน่าเชื่อถือ |
10. Vaseline Brightening Serum | SPF50+ PA++++ | สำหรับใช้ทุกวัน | เซรั่ม | มองหาความคุ้มค่า, ใช้ทุกวัน | ราคาประหยัด บำรุงผิวใส |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. ควรทาครีมกันแดดทาตัวบ่อยแค่ไหน?
คำตอบ: เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 15-30 นาที และควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือทาซ้ำทันทีหลังจากว่ายน้ำ, เหงื่อออกมาก, หรือหลังจากเช็ดตัวด้วยผ้าขนหนู แม้ว่าผลิตภัณฑ์จะระบุว่ากันน้ำได้นานก็ตาม
2. ครีมกันแดดทาหน้าใช้ทาตัวได้ไหม และครีมกันแดดทาตัวใช้ทาหน้าได้หรือไม่?
คำตอบ: คุณสามารถใช้ครีมกันแดดทาหน้ามาทาตัวได้ แต่มักจะมีราคาแพงกว่าและมีขนาดเล็กกว่าจึงไม่คุ้มค่า ในทางกลับกัน ไม่แนะนำให้นำครีมกันแดดทาตัวมาใช้กับผิวหน้าเป็นประจำ เพราะสูตรสำหรับผิวกายมักจะมีความเข้มข้น หนา และมีส่วนผสมของน้ำมันที่อาจอุดตันรูขุมขนหรือก่อให้เกิดการระคายเคืองบนผิวหน้าที่บอบบางกว่าได้
3. ปริมาณครีมกันแดดที่ต้องใช้สำหรับทาทั่วตัวคือเท่าไหร่?
คำตอบ: ปริมาณที่แนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญคือ “กฎแก้วช็อต” (The Shot Glass Rule) ซึ่งเท่ากับประมาณ 1 ออนซ์ หรือ 2 ช้อนโต๊ะ สำหรับทาให้ทั่วผิวกายที่ไม่ได้อยู่ในร่มผ้าของ T-shirt และกางเกงขาสั้น การทาในปริมาณที่น้อยเกินไปจะทำให้ค่า SPF ที่ได้รับไม่ตรงตามที่ระบุบนฉลาก
4. ครีมกันแดดมีวันหมดอายุหรือไม่ ควรเก็บอย่างไร?
คำตอบ: มีแน่นอน ควรตรวจสอบวันหมดอายุ (EXP) บนบรรจุภัณฑ์เสมอ ครีมกันแดดที่หมดอายุแล้วจะเสื่อมประสิทธิภาพและไม่สามารถป้องกันผิวได้ดีเท่าเดิม วิธีเก็บรักษาที่ดีที่สุดคือเก็บไว้ในที่เย็นและแห้ง พ้นจากแสงแดดโดยตรง หลีกเลี่ยงการทิ้งไว้ในรถที่ร้อนจัด เพราะความร้อนสูงสามารถทำลายความเสถียรของสารกันแดดได้
บทสรุป
การเลือก ครีมกันแดดทาตัว ยี่ห้อไหนดี ที่สามารถกันน้ำ กันเหงื่อ และมีค่า SPF สูง ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอีกต่อไปเมื่อเราเข้าใจถึงความสำคัญของการปกป้องผิว ความหมายของค่าต่างๆ บนฉลาก และรู้จักเลือกเนื้อสัมผัสที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นสายกิจกรรมลุยๆ ที่ต้องการการปกป้องขั้นสุดยอดอย่าง Anessa หรือ Banana Boat, เป็นคนผิวแพ้ง่ายที่ต้องพึ่งพาความอ่อนโยนของ MizuMi หรือ Eucerin, หรือเป็นสายชิลที่ใช้ทุกวันในเมืองและต้องการความคุ้มค่าจาก Biore หรือ Vaseline ก็มีตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมรออยู่เสมอ
หัวใจสำคัญที่สุดของการปกป้องผิวไม่ใช่การมีกันแดดที่แพงที่สุด แต่คือการมีวินัยในการทาอย่างสม่ำเสมอในปริมาณที่เหมาะสม และทาซ้ำเมื่อจำเป็น การลงทุนกับครีมกันแดดทาตัวดีๆ สักหลอด คือการลงทุนเพื่อสุขภาพผิวที่ดีในระยะยาว ช่วยให้ผิวของคุณสวยใส ห่างไกลจากริ้วรอยก่อนวัยและความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนัง เพื่อให้คุณสามารถสนุกกับทุกกิจกรรมและใช้ชีวิตท้าแดดได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยที่สุด
Image by: RF._.studio _
https://www.pexels.com/@rethaferguson