Posted in

แนะนำ 10 คุชชั่น ยี่ห้อไหนดี 2025 ปกปิดดี คุมมัน กันน้ำ เหมาะกับทุกสภาพผิว

สวัสดีค่ะสาวๆ ชาว soodd.com ทุกคน! เคยรู้สึกท้อใจกับการตามหา “รองพื้นที่ใช่” กันบ้างไหมคะ? บางตัวก็หนาเตอะจนดูไม่เป็นธรรมชาติ บางตัวก็บางเบาเกินไปจนไม่ช่วยปกปิดอะไรเลย แถมอากาศเมืองไทยที่ร้อนอบอ้าวก็ยังเป็นศัตรูตัวฉกาจที่พร้อมจะละลายเมคอัพสวยๆ ของเราได้ทุกเมื่อ แต่ปัญหานี้กำลังจะหมดไปค่ะ เพราะวันนี้ “คุชชั่น” ได้เข้ามาปฏิวัติวงการเมคอัพให้กลายเป็นเรื่องง่าย สะดวก และรวดเร็วในตลับเดียว! คุชชั่นไม่ใช่แค่รองพื้นอัดตลับ แต่มันคือไอเทมมหัศจรรย์ที่รวมทั้งรองพื้น, กันแดด, และสกินแคร์บำรุงผิวไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ในบทความนี้ เราในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านคอนเทนต์และ SEO จะพาทุกคนไปเจาะลึกโลกของคุชชั่นแบบหมดเปลือก ตั้งแต่วิธีการเลือกให้เป๊ะปังเข้ากับสภาพผิว ไปจนถึงการเปิดกรุรีวิวแบบจัดเต็มกับ แนะนำ 10 คุชชั่น ยี่ห้อไหนดี 2025 ที่คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง ทั้งเรื่องการปกปิด คุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อ และที่สำคัญคือต้องให้งานผิวสวยเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าคุณจะมีสภาพผิวแบบไหน งบประมาณเท่าไหร่ หรือชอบฟินิชลุคแบบไหนก็ตาม เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปค้นหาคุชชั่นคู่ใจตลับใหม่ที่จะมาเปลี่ยนการแต่งหน้าของคุณให้สวยปังกว่าที่เคยกันเลยค่ะ!

คุชชั่น (Cushion) คืออะไร? ทำไมถึงกลายเป็นไอเทมลูกรักของทุกคนในปี 2025

สำหรับใครที่ยังสงสัยว่า “คุชชั่น” คืออะไรกันแน่? อธิบายง่ายๆ เลยค่ะว่า คุชชั่น คือผลิตภัณฑ์รองพื้นในรูปแบบของเหลวที่ถูกบรรจุอยู่ในฟองน้ำ (Sponge) ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในตลับพกพาสะดวก มาพร้อมกับแผ่นพัฟ (Air Puff) ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อใช้กับคุชชั่นโดยเฉพาะ ทำให้การลงรองพื้นกลายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วกว่าที่เคย เพียงแค่ใช้พัฟแตะเบาๆ ลงบนฟองน้ำแล้วกดแท็บๆ ลงบนผิวหน้า ก็จะได้งานผิวที่เรียบเนียน สม่ำเสมอ และดูเป็นธรรมชาติได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ความนิยมของคุชชั่นที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้ในปี 2025 นั้นมาจากหลายเหตุผลด้วยกัน ประการแรกคือ ความสะดวกสบาย ด้วยแพ็กเกจจิ้งแบบตลับ ทำให้พกพาไปเติมระหว่างวันได้ง่าย ไม่ต้องวุ่นวายกับขวดรองพื้นหรือแปรงหลายชิ้น ประการที่สองคือ ความสามารถในการสร้างงานผิวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นลุคผิวแมตต์คุมมัน, ผิวฉ่ำโกลว์แบบสาวเกาหลี (Dewy Look) หรือผิวสวยสุขภาพดีแบบซาติน (Satin Finish) คุชชั่นรุ่นใหม่ๆ ก็สามารถตอบโจทย์ได้หมด และที่สำคัญที่สุดคือ การผสมผสานสกินแคร์เข้าไว้ด้วยกัน คุชชั่นส่วนใหญ่มักมีส่วนผสมของสารกันแดดค่า SPF สูง, สารบำรุงที่ให้ความชุ่มชื้น, สารที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส หรือแม้กระทั่งส่วนผสมสำหรับผิวแพ้ง่าย ทำให้การแต่งหน้าไม่ใช่แค่การปกปิด แต่ยังเป็นการบำรุงและปกป้องผิวไปในตัวอีกด้วยค่ะ

วิธีเลือกคุชชั่นให้เป๊ะปัง! เคล็ดลับสำหรับทุกสภาพผิว

การเลือกคุชชั่นที่ “ดีที่สุด” ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาหรือแบรนด์เสมอไป แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุชชั่นตลับนั้น “เหมาะกับสภาพผิว” ของเรามากแค่ไหน เพราะผิวที่แตกต่างกันก็มีความต้องการที่ต่างกัน การเลือกคุชชั่นที่ใช่จะช่วยขับให้ผิวของเราสวยโดดเด่นและแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละสภาพผิวควรจะมองหาคุชชั่นแบบไหน

สำหรับผิวมันและผิวผสม (Oily & Combination Skin)

ชาวผิวมันและผิวผสมมักจะเจอปัญหาหน้าเยิ้มระหว่างวัน เมคอัพไหลเป็นคราบ และรูขุมขนกว้าง สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกคุชชั่นที่เน้นคุณสมบัติ “ควบคุมความมัน” (Oil Control) และให้ “ฟินิชลุคแบบแมตต์ (Matte)” หรือ “กึ่งแมตต์ (Semi-Matte)” เพื่อช่วยลดความเงาบนใบหน้า ทำให้ผิวดูเรียบเนียนเหมือนทาแป้งฝุ่นทับ ควรมองหาคุชชั่นที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ และมีเทคโนโลยี Long-lasting หรือ Sebum Control ที่ช่วยให้เมคอัพติดทนนานตลอดวัน ไม่ดรอป ไม่หมองคล้ำ ส่วนผสมอย่าง Tea Tree Oil, Niacinamide หรือ Silica Powder จะช่วยดูดซับความมันส่วนเกินและป้องกันการอุดตันซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี

สำหรับผิวแห้ง (Dry Skin)

หัวใจหลักของชาวผิวแห้งคือ “ความชุ่มชื้น” ค่ะ ปัญหาหลักๆ คือผิวขาดน้ำ แต่งหน้าแล้วเป็นขุย ตกร่องได้ง่าย ดังนั้นควรเลือกคุชชั่นที่เน้นการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวโดยเฉพาะ มองหาสูตรที่ให้ “ฟินิชลุคแบบฉ่ำวาว (Dewy)” หรือ “โกลว์ (Glow)” เพื่อให้ผิวดูอิ่มน้ำ สุขภาพดี มีชีวิตชีวา ส่วนผสมที่ควรมองหาในคุชชั่นสำหรับผิวแห้ง ได้แก่ Hyaluronic Acid, Glycerin, Ceramides, Squalane หรือสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เนื้อคุชชั่นควรมีความครีมมี่เล็กน้อย เกลี่ยง่าย และแนบสนิทไปกับผิว จะช่วยให้ผิวของคุณดูเรียบเนียน ไม่แห้งแตกหรือเป็นคราบระหว่างวันเลยค่ะ

สำหรับผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin)

สำหรับคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย การเลือกผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสกับผิวโดยตรงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ควรเลือกคุชชั่นสูตร “อ่อนโยน (Gentle Formula)” ที่ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง (Dermatologically Tested) และเป็น Hypoallergenic เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง ควรมองหาส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยปลอบประโลมผิว เช่น สารสกัดจากใบบัวบก (Cica), ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) หรือคาโมมายล์ (Chamomile) และที่สำคัญที่สุดคือ ควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองอย่าง แอลกอฮอล์, น้ำหอม, พาราเบน, และมิเนอรัลออยล์ คุชชั่นประเภท Mineral Cushion หรือ Physical Sunscreen ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับผิวแพ้ง่ายค่ะ

Checklist ก่อนซื้อ! 5 ข้อที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจเลือก “คุชชั่น ยี่ห้อไหนดี 2025”

ก่อนจะควักกระเป๋าจ่ายเงินให้กับคุชชั่นตลับใหม่ ลองมาเช็คลิสต์ 5 ข้อง่ายๆ นี้กันก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้คุชชั่นที่ตอบโจทย์และเป็นคู่ใจของคุณจริงๆ

1. ระดับการปกปิด (Coverage Level)

คุณต้องการการปกปิดระดับไหน? คุชชั่นแต่ละรุ่นมีระดับการปกปิดที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่บางเบาไปจนถึงสูงสุด

  • ปกปิดบางเบา (Light Coverage): เหมาะสำหรับคนที่ผิวดีอยู่แล้ว ต้องการแค่ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ดูเป็นธรรมชาติ เหมือนไม่ได้แต่งหน้า
  • ปกปิดปานกลาง (Medium Coverage): เป็นระดับที่นิยมที่สุด สามารถปกปิดรอยแดง รอยดำเล็กๆ น้อยๆ ได้ดี และยังสามารถบิ้วด์เพิ่มการปกปิดเฉพาะจุดได้ (Buildable)
  • ปกปิดสูงสุด (Full Coverage): เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเนียนกริบ ปกปิดรอยสิว ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำที่ชัดเจน ให้ผลลัพธ์เหมือนการใช้รองพื้นชนิดน้ำ

2. ฟินิชลุค (Finish)

ฟินิชลุคคือผลลัพธ์สุดท้ายบนผิวหลังจากการทาคุชชั่น ซึ่งบ่งบอกสไตล์และสร้างมิติให้ใบหน้าได้เป็นอย่างดี

  • แมตต์ (Matte): ให้ผิวเรียบเนียนเหมือนทาแป้ง ไม่มีประกายความวาว เหมาะกับคนผิวมัน
  • ซาติน/กึ่งแมตต์ (Satin/Semi-Matte): เป็นฟินิชที่อยู่กึ่งกลางระหว่างแมตต์กับโกลว์ ให้ผิวที่ดูสุขภาพดีเป็นธรรมชาติ ไม่แห้งและไม่มันวาวจนเกินไป เหมาะกับทุกสภาพผิว
  • โกลว์/ฉ่ำวาว (Glow/Dewy): ให้ผิวดูเปล่งปลั่ง สดใส อิ่มน้ำเหมือนสาวเกาหลี เหมาะกับคนผิวแห้งหรือคนที่ต้องการลุคผิวสุขภาพดี

3. การเลือกเฉดสี (Shade Matching)

ปัญหาสีคุชชั่นลอยหรือหน้าหมองคล้ำระหว่างวันมักเกิดจากการเลือกเฉดสีผิด วิธีที่ดีที่สุดคือการไปทดลองสีที่เคาน์เตอร์โดยตรง ควรเทสต์สีบริเวณ “แนวกราม” หรือ “ข้างแก้ม” ไม่ใช่หลังมือ เพราะสีผิวบริเวณนั้นใกล้เคียงกับสีผิวหน้าที่สุด ลองเลือก 2-3 เฉดที่คิดว่าใกล้เคียงแล้วปาดเทียบกัน สีที่กลืนหายไปกับผิวคือสีที่ใช่สำหรับคุณ นอกจากนี้ อย่าลืมพิจารณา “อันเดอร์โทน” (Undertone) ของผิวด้วยว่าเป็นโทนชมพู (Cool), โทนเหลือง (Warm) หรือโทนกลาง (Neutral) เพื่อให้ได้สีที่เป๊ะที่สุด

4. คุณสมบัติพิเศษ (Special Features)

คุชชั่นในปัจจุบันไม่ได้มีดีแค่ปกปิด แต่ยังมาพร้อมคุณสมบัติพิเศษอีกมากมาย ลองมองหาคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ เช่น:

  • การกันแดด (Sun Protection): มองหาค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไป เพื่อการปกป้องผิวจากรังสียูวีในชีวิตประจำวัน
  • การกันน้ำ กันเหงื่อ (Waterproof/Sweat-proof): สำคัญมากสำหรับอากาศเมืองไทย ช่วยให้เมคอัพติดทนนาน ไม่ไหลเยิ้ม
  • ส่วนผสมบำรุงผิว (Skincare Benefits): เช่น Anti-aging ลดเลือนริ้วรอย, Whitening/Brightening เพื่อผิวกระจ่างใส หรือส่วนผสมควบคุมความมัน

5. ส่วนผสมที่ควรมองหาและควรเลี่ยง

การอ่านฉลากส่วนผสมเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ควรมองหาส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว เช่น Hyaluronic Acid, Niacinamide, Centella Asiatica (Cica) และควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรืออุดตัน เช่น น้ำหอม (Fragrance), แอลกอฮอล์ (Alcohol Denat.), พาราเบน (Parabens) และมิเนอรัล ออยล์ (Mineral Oil)

เปิดกรุ! แนะนำ 10 คุชชั่น ยี่ห้อไหนดี 2025 ที่สุดแห่งปี ปกปิดเนียนกริบ คุมมัน กันเหงื่อ

มาถึงส่วนที่ทุกคนรอคอย! เราได้รวบรวมและคัดสรร 10 คุชชั่นตัวท็อปแห่งปี 2025 ที่โดดเด่นในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปกปิด คุมมัน กันน้ำ และเหมาะกับสภาพผิวที่หลากหลาย มาดูกันว่าจะมีตลับไหนที่ใช่สำหรับคุณบ้าง

1. Laneige Neo Cushion Matte SPF42 PA++

สุดยอดคุชชั่นคุมมันในตำนานที่ครองใจสาวไทยมาอย่างยาวนาน Laneige Neo Cushion Matte ได้รับการพัฒนาสูตรมาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์อากาศร้อนชื้นโดยเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยี Humid Defense™ ช่วยให้เมคอัพติดทนนานถึง 24 ชั่วโมง แม้จะเจอเหงื่อหรือความมันก็ไม่หวั่น เนื้อคุชชั่นบางเบาแต่ให้การปกปิดระดับปานกลางถึงสูง สามารถเบลอรูขุมขนและปกปิดรอยแดงได้อย่างเรียบเนียน มอบฟินิชลุคแบบแมตต์สนิทแต่ไม่ทำให้ผิวดูแห้งกร้าน ยังคงความสบายผิวตลอดวัน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ Blue Light Protection ช่วยปกป้องผิวจากแสงสีฟ้าของหน้าจอคอมพิวเตอร์และมือถืออีกด้วย ถือเป็นคุชชั่นที่เหมาะกับคนผิวมันและผิวผสมที่ต้องการงานผิวเป๊ะปัง ติดทนตลอดวันอย่างแท้จริง

คุณสมบัติเด่น

  • ควบคุมความมันยาวนานเป็นพิเศษด้วยเทคโนโลยี Humid Defense™
  • ติดทน 24 ชั่วโมง กันน้ำ กันเหงื่อ (Sweat-proof)
  • ฟินิชลุคแบบซอฟต์แมตต์ เบลอรูขุมขนได้เนียนกริบ
  • ปกป้องผิวจากแสงสีฟ้า (Blue Light Protection)
  • มีเฉดสีให้เลือกหลากหลาย เข้ากับโทนสีผิวคนเอเชีย
  • ตลับดีไซน์มินิมอล สามารถเปลี่ยนรีฟิลได้

2. JUNG SAEM MOOL Masterclass Radiant Cushion SPF50+ PA+++

หากพูดถึงคุชชั่นงานผิวสวยฉ่ำโกลว์แบบนางเอกซีรีส์เกาหลี ต้องยกให้ JUNG SAEM MOOL Masterclass Radiant Cushion ตลับนี้เลย นี่คือผลงานระดับมาสเตอร์พีซจากเมคอัพอาร์ติสชื่อดังของเกาหลี ที่มอบงานผิวเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยเทคโนโลยี Radiant Mool Ampoule™ ที่ผสานสกินแคร์เข้มข้น ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและอิ่มฟูจากภายในสู่ภายนอก เนื้อคุชชั่นบางเบา เกลี่ยง่าย ให้การปกปิดระดับปานกลาง สามารถบิ้วด์เพิ่มได้โดยไม่ทำให้ดูหนาเตอะ จุดเด่นคือฟินิชลุคที่ให้ความโกลว์สวยกำลังดี ผิวดูสว่างใส มีออร่า ไม่ใช่ความมันเยิ้ม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนผิวแห้งและผิวธรรมดาที่ต้องการให้ผิวดูสุขภาพดีและสดใสตลอดวัน ใครที่อยากได้รีวิวคุชชั่นที่ให้งานผิวสวยแบบมืออาชีพต้องลอง

คุณสมบัติเด่น

  • มอบฟินิชลุคฉ่ำโกลว์ เปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ
  • มีส่วนผสมของ Radiant Mool Ampoule™ ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น
  • เนื้อคุชชั่นบางเบา สบายผิว ไม่หนักหน้า
  • ปกปิดระดับปานกลาง สามารถบิ้วด์เพิ่มได้
  • มีค่า SPF50+ PA+++ ป้องกันแดดได้ดีเยี่ยม
  • มาพร้อมถาดผสมรองพื้นในตลับสำหรับปรับปริมาณการใช้

3. Clio Kill Cover The New Founwear Cushion SPF50+ PA+++

ยืนหนึ่งเรื่องการปกปิดต้องยกให้ Clio แบรนด์ดังจากเกาหลี สำหรับรุ่น The New Founwear Cushion เป็นสูตรใหม่ที่พัฒนาให้เนื้อบางเบาลงกว่าเดิม แต่ยังคงประสิทธิภาพการปกปิดขั้นสุดยอดไว้อย่างครบถ้วน สามารถปกปิดรอยสิว รอยดำ ฝ้า กระ ได้เนียนกริบในปาดเดียว ให้ฟินิชลุคแบบกึ่งแมตต์ (Semi-Matte) ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่หนา ไม่โบ๊ะ เนื้อคุชชั่นเกลี่ยง่าย แนบสนิทไปกับผิว และติดทนนานถึง 72 ชั่วโมง! ทั้งยังกันน้ำ กันเหงื่อ และไม่ติดแมสก์ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการการปกปิดสูง แต่ยังอยากได้ความสบายผิวและความติดทนเป็นพิเศษ เป็นอีกหนึ่งคุชชั่นที่คนผิวมันและผิวผสมต้องมีติดกระเป๋าไว้ในวันสำคัญที่ต้องการความเป๊ะตลอดวัน

คุณสมบัติเด่น

  • การปกปิดสูง (High Coverage) แต่เนื้อบางเบา ไม่หนักผิว
  • ติดทนนานสูงสุด 72 ชั่วโมง
  • ฟินิชลุคแบบกึ่งแมตต์ ผิวสวยเป็นธรรมชาติ
  • คุณสมบัติ Mask-proof ไม่ติดแมสก์
  • พัฟดีไซน์โค้งมนเข้ารูป เข้าถึงซอกมุมต่างๆ ได้ดี
  • มีให้เลือกหลายเฉดสี ตอบโจทย์ผิวคนไทย

4. YSL Touche Éclat Glow-Pact Cushion

สัมผัสความหรูหราและงานผิวสวยไร้ที่ติกับ YSL Touche Éclat Glow-Pact Cushion คุชชั่นเคาน์เตอร์แบรนด์ที่มอบมากกว่าการปกปิด แต่คือการรังสรรค์ผิวให้เปล่งประกายสุขภาพดี ด้วยเทคโนโลยี Mesh-Cushion ที่ละเอียดอ่อน ช่วยให้เนื้อผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างสม่ำเสมอและบางเบา เนื้อคุชชั่นอุดมไปด้วยส่วนผสมบำรุงผิวจากธรรมชาติอย่างดอกดาวเรืองและดอกมัลโลว์ ที่ช่วยปลอบประโลมและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ให้การปกปิดระดับปานกลางที่สามารถบิ้วด์เพิ่มได้ มอบฟินิชลุคแบบโกลว์ที่ดูแพง ผิวดูสว่างใส มีมิติอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่ความมันวาว เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้งและผิวธรรมดาที่ต้องการความหรูหราและงานผิวที่ดูสุขภาพดีในทุกมุมมอง

คุณสมบัติเด่น

  • มอบผิวโกลว์สวยสุขภาพดี ดูเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ
  • มีส่วนผสมของสกินแคร์บำรุงผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
  • เทคโนโลยีตาข่าย (Mesh Technology) ทำให้เนื้อคุชชั่นละเอียดและบางเบา
  • ปกปิดระดับปานกลาง สามารถบิ้วด์เพิ่มได้
  • แพ็กเกจจิ้งหรูหรา สวยงาม สมฐานะแบรนด์
  • ให้ความรู้สึกสบายผิวตลอดวัน

5. Dior Forever Skin Glow Cushion SPF 50 PA+++

อีกหนึ่งคุชชั่นระดับไฮเอนด์ที่เป็นลูกรักของใครหลายคน Dior Forever Skin Glow Cushion โดดเด่นด้วยการมอบฟินิชลุคแบบ “Luminous Glow” คือผิวที่ดูโกลว์สวย สว่างสดใส แต่ไม่มันเยิ้ม ติดทนนาน 24 ชั่วโมง พร้อมบำรุงผิวไปในตัวด้วยสารสกัดจากดอกไอริสและดอกแพนซี่ป่า ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและเสริมสร้างความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว เนื้อคุชชั่นมีความบางเบา สบายผิว เกลี่ยง่าย ให้การปกปิดระดับปานกลางที่ดูเป็นธรรมชาติ ช่วยเบลอรูขุมขนและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติกันน้ำ กันเหงื่อ และทนต่อความร้อนชื้นได้ดี ทำให้เป็นคุชชั่นที่เหมาะกับสภาพอากาศของเมืองไทย และเหมาะกับผู้ที่ต้องการงานผิวสวยสมบูรณ์แบบที่ติดทนนานตลอดวัน

คุณสมบัติเด่น

  • ฟินิชลุค Luminous Glow ผิวสวยกระจ่างใส ติดทนนาน 24 ชั่วโมง
  • มีส่วนผสมของสกินแคร์เข้มข้น ช่วยบำรุงและปกป้องผิว
  • เนื้อสัมผัสบางเบา สบายผิว ไม่หนักหน้า
  • มีค่า SPF 50 PA+++ ป้องกันรังสี UVA/UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ผ่านการทดสอบ Non-comedogenic ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
  • มีเฉดสีให้เลือกหลากหลายครอบคลุมทุกอันเดอร์โทน

6. SKINTIFIC Cover All Perfect Cushion SPF35 PA++++

คุชชั่นแบรนด์ดังจากสายสกินแคร์ที่กำลังมาแรงสุดๆ SKINTIFIC Cover All Perfect Cushion เป็นคุชชั่นที่ออกแบบมาเพื่อคนเป็นสิวและผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ ด้วยคอนเซ็ปต์ “Makeup Hybrid Skincare” ที่ผสานการปกปิดเข้ากับการบำรุงและรักษาสิว จุดเด่นคือการปกปิดที่สูงมาก สามารถกลบรอยสิวรอยแดงได้มิด แต่เนื้อยังคงบางเบาและไม่ทำให้ผิวอุดตัน มีส่วนผสมของ 5X Ceramide, Centella Asiatica และ Hyaluronic Acid ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ปลอบประโลมผิว และให้ความชุ่มชื้น อีกทั้งยังมี Salicylic Acid ช่วยดูแลปัญหสิวด้วย ให้ฟินิชลุคแบบกำมะหยี่ (Velvet Matte) ที่คุมมันได้ดีและติดทนนาน 12 ชั่วโมง ใครที่ผิวมีปัญหาแต่ยังอยากแต่งหน้า บอกเลยว่าตลับนี้คือคำตอบ

คุณสมบัติเด่น

  • ปกปิดสูง แต่เนื้อบางเบา ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic)
  • มีส่วนผสมของ Ceramide, Centella, และ Salicylic Acid เหมาะกับผิวเป็นสิวแพ้ง่าย
  • ควบคุมความมันได้ดี ให้ฟินิชลุคแบบ Velvet Matte
  • ติดทน 12 ชั่วโมง กันน้ำ และไม่ติดแมสก์
  • เทคโนโลยี Raincoat Protective Film ช่วยล็อคเมคอัพ
  • ปราศจากแอลกอฮอล์ พาราเบน และมิเนอรัลออยล์

7. Sulwhasoo Perfecting Cushion SPF50+/PA+++

คุชชั่นแบรนด์ Hi-End จากเกาหลีที่ขึ้นชื่อเรื่องส่วนผสมจากโสมและสมุนไพรโบราณ Sulwhasoo Perfecting Cushion เป็นมากกว่าเมคอัพ แต่คือการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก สูตรนี้โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี SLIM-FIT HIGH COVERAGE ที่ช่วยให้เนื้อคุชชั่นแนบสนิทไปกับผิวได้อย่างสมบูรณ์แบบ มอบการปกปิดที่เรียบเนียนแต่ยังคงความรู้สึกสบายผิว พร้อมส่วนผสมบำรุงผิวสุดพรีเมียมอย่าง JAUM Activator™ ที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวา ให้ฟินิชลุคแบบ Semi-Matte ที่ดูสุขภาพดี ไม่แห้งหรือมันจนเกินไป ติดทนนานตลอดวัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการปกปิดที่ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมการบำรุงผิวแบบจัดเต็ม เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อผิวสวยสมบูรณ์แบบในระยะยาว

คุณสมบัติเด่น

  • ผสานสกินแคร์บำรุงผิวสุดหรูจาก Sulwhasoo ช่วยฟื้นฟูผิว
  • เนื้อคุชชั่นยึดเกาะผิวได้ดีเยี่ยมด้วยเทคโนโลยี SLIM-FIT
  • ให้การปกปิดเรียบเนียน แต่สบายผิว ไม่หนักหน้า
  • ฟินิชลุคแบบ Semi-Matte ผิวดูสุขภาพดี
  • ติดทนนานตลอดวัน สีไม่ดรอป
  • มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของสมุนไพรให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

8. espoir Pro Tailor Be Velvet Cover Cushion SPF34 PA++

อีกหนึ่งคุชชั่นเกาหลียอดนิยมที่สายแมตต์ต้องหลงรัก espoir Pro Tailor Be Velvet Cover Cushion ให้ฟินิชลุคแบบกำมะหยี่ (Velvet) ที่สมบูรณ์แบบ เนื้อแมตต์แต่ไม่แห้ง ให้ผิวที่ดูเรียบเนียน นุ่มลื่นน่าสัมผัสเหมือนผ้ากำมะหยี่ มี Power Elastic Layer ที่ช่วยให้เนื้อคุชชั่นยืดหยุ่นและยึดเกาะกับผิวได้ดี ทำให้การปกปิดเรียบเนียนและติดทนนานโดยไม่เป็นคราบ สามารถเบลอรูขุมขนและริ้วรอยเล็กๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อสัมผัสบางเบา ไม่หนักผิว และยังเป็นสูตร Vegan ที่ผ่านการรับรองว่าไม่มีส่วนผสมจากสัตว์และไม่ทดลองในสัตว์ เหมาะสำหรับคนผิวมันและผิวผสมที่ต้องการงานผิวแมตต์สวยเป๊ะ แต่ยังคงความสบายผิวและใส่ใจในเรื่องส่วนผสม

คุณสมบัติเด่น

  • ฟินิชลุคแบบ Velvet Matte ผิวเรียบเนียน นุ่มลื่น
  • เนื้อบางเบาแต่ให้การปกปิดดีเยี่ยม
  • ติดทนนาน ไม่เป็นคราบระหว่างวัน
  • เป็นสูตร Vegan และผ่านการทดสอบ Hypoallergenic
  • ช่วยเบลอรูขุมขนได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • พัฟนุ่ม เกลี่ยผลิตภัณฑ์ได้ดี

9. TIRTIR Mask Fit Red Cushion SPF40 PA++

คุชชั่นไวรัลจากญี่ปุ่นและเกาหลีที่โด่งดังเรื่องความติดทนและงานผิวสวย TIRTIR Mask Fit Red Cushion ถูกออกแบบมาเพื่อการติดทนสูงสุดถึง 72 ชั่วโมง! และไม่ติดแมสก์สมชื่อรุ่น “Mask Fit” เนื้อคุชชั่นมีความเข้มข้นแต่เมื่อเกลี่ยลงบนผิวแล้วจะให้ความรู้สึกบางเบา ให้การปกปิดสูง สามารถกลบรอยต่างๆ ได้อย่างเรียบเนียน มอบฟินิชลุคแบบ Semi-Glow คือผิวจะดูฉ่ำสวย มีประกาย แต่ไม่มันเยิ้ม ทำให้ผิวดูสุขภาพดี มีชีวิตชีวา อุดมไปด้วยส่วนผสมบำรุงผิวอย่าง Propolis Extract, Astaxanthin และ Hibiscus Sabdariffa Flower Extract ที่ช่วยบำรุงให้ผิวแข็งแรงและกระจ่างใส เหมาะกับทุกสภาพผิวที่ต้องการความติดทนขั้นสุดและงานผิวสวยฉ่ำแบบพอดี

คุณสมบัติเด่น

  • ติดทนนานเป็นพิเศษถึง 72 ชั่วโมง
  • คุณสมบัติ Mask-proof ไม่เปื้อนแมสก์
  • ปกปิดสูง แต่ให้งานผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • ฟินิชลุคแบบ Semi-Glow ผิวสวยฉ่ำกำลังดี
  • มีส่วนผสมบำรุงผิวที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและแข็งแรง
  • ตลับรูปไข่ ดีไซน์สวยงามเป็นเอกลักษณ์

10. RAN Retouch Skin Foundation Cushion by Pom Vinij

ปิดท้ายด้วยคุชชั่นแบรนด์ไทยคุณภาพที่สร้างสรรค์โดยเมคอัพอาร์ติสชื่อดังของเมืองไทย “น้องฉัตร” RAN Retouch Skin Foundation Cushion ถูกออกแบบมาเพื่อผิวคนไทยและสภาพอากาศเมืองไทยโดยเฉพาะ จุดเด่นคือการ “รีทัชผิว” ให้เรียบเนียนกริบเหมือนผ่านแอปพลิเคชัน ให้การปกปิดสูงมากแต่เนื้อบางเบา ไม่หนักหน้า ควบคุมความมันได้อย่างดีเยี่ยม กันน้ำ กันเหงื่อแบบสุดๆ ให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ที่สวยกำลังดี ไม่ทำให้หน้าดูแบน มีส่วนผสมของวิตามินอีและสารสกัดจากกล้วยไม้ที่ช่วยบำรุงผิว พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย SPF50+ PA++++ เป็นคุชชั่นที่เหมาะกับคนที่ต้องการความเป๊ะปังแบบ Full HD ถ่ายรูปขึ้นกล้อง และติดทนสู้แดดสู้ฝนของเมืองไทยได้ตลอดทั้งวัน

คุณสมบัติเด่น

  • ปกปิดสูงสุด “รีทัชผิว” ให้เนียนกริบ
  • ควบคุมความมันดีเยี่ยม กันน้ำ กันเหงื่อ
  • พัฒนามาเพื่อผิวคนไทยและอากาศร้อนชื้นโดยเฉพาะ
  • มีค่ากันแดดสูง SPF50+ PA++++
  • มีเฉดสีที่เหมาะกับอันเดอร์โทนผิวคนไทย
  • ให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ที่สวยทนตลอดวัน

ตารางเปรียบเทียบ 10 คุชชั่นตัวท็อป 2025 เลือกตลับที่ใช่สำหรับคุณ

ชื่อผลิตภัณฑ์ เหมาะกับสภาพผิว ระดับการปกปิด ฟินิชลุค จุดเด่น
Laneige Neo Cushion Matte ผิวมัน, ผิวผสม ปานกลาง – สูง แมตต์ (Matte) คุมมันขั้นสุด, กันเหงื่อ, ปกป้องแสงสีฟ้า
JUNG SAEM MOOL Masterclass Radiant ผิวแห้ง, ผิวธรรมดา ปานกลาง (Buildable) ฉ่ำโกลว์ (Radiant Glow) งานผิวสวยฉ่ำน้ำ, ผสมแอมพูลบำรุง
Clio Kill Cover The New Founwear ทุกสภาพผิว (โดยเฉพาะผิวมัน) สูง กึ่งแมตต์ (Semi-Matte) ปกปิดขั้นสุด, ติดทน 72 ชม., ไม่ติดแมสก์
YSL Touche Éclat Glow-Pact ผิวแห้ง, ผิวธรรมดา, ผิวผสม ปานกลาง (Buildable) โกลว์ (Healthy Glow) ผิวโกลว์หรูหรา, เนื้อละเอียด, บำรุงผิว
Dior Forever Skin Glow Cushion ทุกสภาพผิว ปานกลาง สว่างโกลว์ (Luminous Glow) ผิวสวยสว่างใส, ติดทน 24 ชม., บำรุงผิว
SKINTIFIC Cover All Perfect ผิวเป็นสิว, ผิวแพ้ง่าย, ผิวมัน สูง กำมะหยี่แมตต์ (Velvet Matte) เหมาะกับผิวเป็นสิว, ปกปิดสูง, ไม่อุดตัน
Sulwhasoo Perfecting Cushion ทุกสภาพผิว (โดยเฉพาะผิวที่ต้องการการบำรุง) ปานกลาง – สูง กึ่งแมตต์ (Semi-Matte) ผสมสกินแคร์โสม, ผิวสวยสุขภาพดี
espoir Pro Tailor Be Velvet ผิวมัน, ผิวผสม สูง กำมะหยี่แมตต์ (Velvet) สูตร Vegan, ผิวแมตต์นุ่มลื่น, ติดทน
TIRTIR Mask Fit Red Cushion ทุกสภาพผิว สูง กึ่งโกลว์ (Semi-Glow) ติดทน 72 ชม., ไม่ติดแมสก์, งานผิวสวย
RAN Retouch Skin Foundation Cushion ผิวมัน, ผิวผสม สูง – สูงสุด แมตต์ (Matte) ปกปิดเนียนกริบ, คุมมัน กันน้ำ, เพื่อผิวคนไทย

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. ใช้คุชชั่นแล้วต้องลงแป้งทับไหม?
คำตอบขึ้นอยู่กับสภาพผิวและฟินิชลุคที่ต้องการค่ะ สำหรับคนผิวมันหรือผิวผสม ที่ใช้คุชชั่นสูตรโกลว์หรือต้องการความติดทนเป็นพิเศษ แนะนำให้ใช้แป้งฝุ่นโปร่งแสง (Translucent Powder) เซ็ตเบาๆ บริเวณ T-zone เพื่อควบคุมความมันและล็อคเมคอัพ แต่ถ้าคุณใช้คุชชั่นสูตรแมตต์อยู่แล้วและรู้สึกว่าคุมมันได้ดี ก็อาจไม่จำเป็นต้องลงแป้งทับก็ได้ค่ะ ส่วน คนผิวแห้ง มักจะไม่จำเป็นต้องลงแป้งทับ เพราะจะทำให้ผิวดูแห้งเกินไปและอาจเสียฟินิชลุคแบบฉ่ำวาวไปได้

2. คุชชั่นกับรองพื้นแตกต่างกันอย่างไร?
ความแตกต่างหลักๆ อยู่ที่ แพ็กเกจจิ้งและการใช้งาน ค่ะ คุชชั่น บรรจุในตลับพร้อมฟองน้ำและพัฟ ทำให้พกพาสะดวกและใช้งานง่าย เหมาะกับการเติมระหว่างวัน ให้ฟินิชลุคที่หลากหลายแต่มักจะเน้นความเป็นธรรมชาติมากกว่า ในขณะที่ รองพื้น มักมาในรูปแบบขวด (ปั๊ม, หลอด, หรือขวดแก้ว) ต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่างแปรงหรือฟองน้ำในการลง ซึ่งอาจให้การปกปิดที่หลากหลายและปรับแต่งได้มากกว่า แต่ก็พกพาและใช้งานได้สะดวกน้อยกว่าคุชชั่นค่ะ

3. วิธีทำความสะอาดพัฟคุชชั่นที่ถูกต้อง?
ควรทำความสะอาดพัฟอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเพื่อสุขอนามัยที่ดีและป้องกันการสะสมของแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของสิว วิธีทำความสะอาดง่ายๆ คือ:

  1. ใช้น้ำยาทำความสะอาดพัฟโดยเฉพาะ หรือใช้สบู่เหลวสูตรอ่อนโยน/คลีนซิ่งออยล์ นวดเบาๆ บนพัฟที่แห้งเพื่อละลายคราบรองพื้น
  2. ค่อยๆ เติมน้ำแล้วนวดต่อจนเกิดฟอง
  3. ล้างออกด้วยน้ำสะอาดจนฟองหมด บีบน้ำออกเบาๆ (อย่าบิดพัฟแรงๆ เพราะจะทำให้เสียรูปทรง)
  4. ซับด้วยผ้าขนหนูสะอาดหรือกระดาษทิชชู แล้วนำไปผึ่งในที่ร่มและอากาศถ่ายเทสะดวกจนแห้งสนิทก่อนนำกลับมาใช้

4. คุชชั่นหมดอายุเมื่อไหร่ ดูยังไง?
โดยทั่วไปคุชชั่นจะมีอายุการใช้งาน ประมาณ 12-24 เดือนหลังเปิดใช้ครั้งแรก (สามารถดูสัญลักษณ์รูปกระปุกเปิดฝาบนผลิตภัณฑ์ ที่จะมีตัวเลขบอก เช่น 12M) อย่างไรก็ตาม หากคุณสังเกตเห็นสัญญาณเหล่านี้ ควรทิ้งทันทีแม้จะยังไม่ถึงวันหมดอายุ ได้แก่ กลิ่นเปลี่ยนไป (มีกลิ่นเหม็นหืน), เนื้อสัมผัสเปลี่ยน (เนื้อแยกชั้น, แห้งแข็ง, หรือเหลวผิดปกติ), หรือ สีเปลี่ยนไป การใช้ผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือสิวอุดตันได้ค่ะ

บทสรุป

การเดินทางตามหา “คุชชั่น ยี่ห้อไหนดี 2025” ที่ใช่สำหรับเรานั้นอาจดูเหมือนเป็นเรื่องท้าทาย แต่เมื่อเราเข้าใจความต้องการของผิวตัวเองและรู้ว่าควรมองหาคุณสมบัติอะไรเป็นหลัก การตัดสินใจก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ จากลิสต์ 10 คุชชั่นตัวท็อปที่เราได้คัดสรรและรีวิวอย่างเจาะลึกในวันนี้ จะเห็นได้ว่าแต่ละแบรนด์ต่างก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น Laneige สำหรับการคุมมันขั้นสุด, JUNG SAEM MOOL สำหรับงานผิวโกลว์สวยแบบมืออาชีพ, Clio สำหรับการปกปิดเนียนกริบ, หรือ SKINTIFIC ที่เป็นฮีโร่สำหรับคนเป็นสิว

สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ สภาพผิว และฟินิชลุคที่คุณต้องการ อย่ากลัวที่จะทดลอง และอย่าลืมใช้ Checklist และตารางเปรียบเทียบในบทความนี้เป็นแนวทางในการตัดสินใจนะคะ soodd.com หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ทุกคนได้พบกับคุชชั่นคู่ใจตลับใหม่ ที่จะมาเนรมิตงานผิวสวยสมบูรณ์แบบและสร้างความมั่นใจให้คุณได้ในทุกๆ วันค่ะ

Image by: Suzy Hazelwood
https://www.pexels.com/@suzyhazelwood

The Digital Alchemist (นักเล่นแร่แปรธาตุดิจิทัล)
ผู้ถักทอเรื่องราวและประสบการณ์ผ่านผืนผ้าใบดิจิทัล The Digital Alchemist แห่ง Sooddd.com ไม่เพียงแต่รังสรรค์เนื้อหา แต่ยังปรุงแต่งแรงบันดาลใจ เปลี่ยนแปลงข้อมูลให้เป็นปัญญา และสร้างสรรค์โลกออนไลน์ที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ด้วยวิสัยทัศน์เฉียบคมและความมุ่งมั่นที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เขาคือผู้พลิกโฉมสิ่งธรรมดาให้กลายเป็นความพิเศษในทุกการคลิก