Home » 10 Dry Shampoo ยี่ห้อไหนดี 2025 คุมมัน ผมหอมสดชื่น ไม่ต้องสระ
Posted in

10 Dry Shampoo ยี่ห้อไหนดี 2025 คุมมัน ผมหอมสดชื่น ไม่ต้องสระ

เคยไหมคะ? ตื่นสายจนไม่มีเวลาสระผม, มีนัดด่วนหลังเลิกงานแต่ผมเริ่มมันเยิ้ม, หรือแค่อยากพักหนังศีรษะจากการสระผมทุกวัน ปัญหาผมมัน ผมลีบแบนในวันเร่งรีบถือเป็นฝันร้ายของผู้หญิงหลายคน แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะโลกนี้มีไอเทมสุดเจ๋งที่เรียกว่า “Dry Shampoo” หรือ “ดรายแชมพู” เป็นฮีโร่ขี่ม้าขาวมาช่วยกู้ชีวิตให้ผมของเรากลับมาสวยพริ้งเหมือนเพิ่งสระใหม่ได้ในพริบตา! บทความนี้ soodd.com ได้รวบรวมทุกเรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับดรายแชมพู ตั้งแต่วิธีการทำงาน, เคล็ดลับการเลือกให้เหมาะกับสภาพผม, วิธีใช้แบบมือโปร และที่สำคัญที่สุดคือการจัดอันดับ 10 Dry Shampoo ยี่ห้อไหนดี 2025 ที่คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง ช่วยคุมมัน ให้ผมหอมสดชื่น พร้อมลุยทุกสถานการณ์ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยค่ะ!

ทำความรู้จัก Dry Shampoo ตัวช่วยชีวิตในวันเร่งรีบ คืออะไร?

หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า Dry Shampoo คืออะไรกันแน่? พูดง่ายๆ ก็คือ “แชมพูสระแห้ง” นั่นเองค่ะ มันเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มาในรูปแบบสเปรย์, ผง, หรือมูส มีคุณสมบัติหลักคือการดูดซับความมันส่วนเกินบนเส้นผมและหนังศีรษะโดยไม่ต้องใช้น้ำล้างออก ทำให้ผมที่เคยมันเยิ้มและลีบแบนกลับมาดูสะอาด สดชื่น และมีวอลลุ่มขึ้นทันทีที่ใช้ เหมาะสำหรับเป็นตัวช่วยในวันที่ไม่มีเวลาสระผม, ต้องการยืดอายุทรงผมให้อยู่นานขึ้น, หรือสำหรับคนที่มีปัญหาผมมันง่ายระหว่างวัน

หลักการทำงานของดรายแชมพูนั้นไม่ซับซ้อนเลยค่ะ ส่วนประกอบสำคัญที่มักพบในผลิตภัณฑ์เหล่านี้คือสารที่มีคุณสมบัติดูดซับสูง (Absorbent Agents) เช่น แป้งข้าวเจ้า (Rice Starch), แป้งข้าวโพด (Corn Starch), ดินขาว (Kaolin Clay), หรือซิลิกา (Silica) เมื่อเราฉีดสเปรย์ลงบนโคนผม สารเหล่านี้จะเข้าไปเกาะและดูดซับน้ำมัน (Sebum) ที่หนังศีรษะผลิตออกมา ทำให้ความมันลดลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ดรายแชมพูส่วนใหญ่มักจะผสมน้ำหอมเข้ามาด้วย เพื่อช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์และมอบความหอมสดชื่นให้กับเส้นผม ทำให้เรารู้สึกมั่นใจเหมือนเพิ่งสระผมมาใหม่ๆ เลยทีเดียว

เลือก Dry Shampoo ยี่ห้อไหนดี? เคล็ดลับเลือกให้ใช่ เหมาะกับสภาพผม

การเลือก Dry Shampoo ก็เหมือนกับการเลือกสกินแคร์ค่ะ ต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะของเราเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและไม่ก่อให้เกิดปัญหาตามมา การรู้ว่า Dry Shampoo ยี่ห้อไหนดี นั้นเริ่มต้นจากการเข้าใจความต้องการของตัวเองก่อน ลองมาดูเคล็ดลับในการเลือกกันค่ะ

สำหรับคนผมมันมากและหนังศีรษะมัน

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สระผมตอนเช้า ตอนบ่ายผมก็เริ่มมันเยิ้มแล้ว คุณต้องการดรายแชมพูที่มีประสิทธิภาพในการดูดซับความมันสูงเป็นพิเศษ ควรมองหาส่วนผสมอย่าง แป้งข้าวเจ้า (Rice Starch) หรือ ดินขาว (Kaolin Clay) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการคุมมันขั้นสุดยอด นอกจากนี้ สูตรที่ระบุว่า “Extra Oil Absorption” หรือ “For Oily Hair” ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับความมันโดยเฉพาะ จะช่วยให้ผมของคุณแห้งสบายและคงความสดชื่นได้ยาวนานตลอดวัน

สำหรับคนผมแห้งและหนังศีรษะแพ้ง่าย

ผู้ที่มีหนังศีรษะบอบบางหรือแพ้ง่าย ควรเลือกใช้ดรายแชมพูสูตรอ่อนโยนเป็นพิเศษ หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ (Alcohol) และทัลคัม (Talc) ควรมองหาสูตรที่ระบุว่า “Talc-Free”, “Alcohol-Free” หรือ “For Sensitive Scalp” และมีส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยปลอบประโลมหนังศีรษะ เช่น สารสกัดจากข้าวโอ๊ต (Oat Milk Extract) หรือ อโลเวร่า (Aloe Vera) ซึ่งจะช่วยดูดซับความมันอย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำให้หนังศีรษะแห้งหรือคัน

สำหรับคนผมทำสี

ปัญหาใหญ่ของคนทำสีผมเมื่อใช้ดรายแชมพูคือการทิ้งคราบขาวไว้บนเส้นผม ทำให้สีผมดูหมองและไม่สวยงาม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ควรเลือกใช้ดรายแชมพูที่ออกแบบมาสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ ซึ่งมักจะเป็นสูตรที่ไม่มีสี (Translucent) หรือมีเม็ดสีที่เข้ากับเฉดสีผม (Tinted Dry Shampoo) เช่น สีสำหรับผมสีเข้ม (Dark Tones) หรือสีสำหรับผมบลอนด์ (Blonde) ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะไม่ทิ้งคราบขาวกวนใจ แถมยังช่วยขับสีผมให้ดูเด่นชัดและสวยงามเหมือนเดิม

สำหรับคนผมลีบแบน ต้องการเพิ่มวอลลุ่ม

นอกจากจะช่วยคุมมันแล้ว ดรายแชมพูยังเป็นไอเทมเด็ดในการเพิ่มวอลลุ่มให้ผมที่ลีบแบนอีกด้วย หากคุณต้องการให้ผมดูหนาและมีน้ำหนักขึ้น ควรมองหาสูตรที่ระบุว่า “Volumizing” หรือ “Texturizing” ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะมีส่วนผสมที่ช่วยยกโคนผมและสร้างเท็กซ์เจอร์ให้กับเส้นผม ทำให้ผมดูพองสวย จัดทรงง่ายขึ้น เหมาะมากสำหรับใช้ในวันที่ต้องการเซ็ตผมให้ดูมีมิติเป็นพิเศษ

วิธีใช้ Dry Shampoo อย่างมือโปร บอกลาคราบขาวและผมแข็งกระด้าง

หลายคนเคยเจอปัญหาใช้ดรายแชมพูแล้วผมเป็นคราบขาวดูน่าเกลียด หรือผมแข็งกระด้างจัดทรงยาก ปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากการใช้ผิดวิธี วันนี้เรามีเคล็ดลับการใช้ Dry Shampoo แบบสเต็ปต่อสเต็ปมาฝากกัน รับรองว่าทำตามนี้แล้วผมจะกลับมาสวยเป๊ะเหมือนสระใหม่แน่นอน

  • ขั้นตอนที่ 1: เขย่ากระป๋องก่อนใช้
    นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดแต่มักถูกมองข้าม! การเขย่ากระป๋องแรงๆ ประมาณ 10-15 วินาที จะช่วยให้ส่วนผสมที่เป็นแป้งดูดซับความมันกระจายตัวเข้ากับสเปรย์อย่างสม่ำเสมอ ป้องกันไม่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อนและฉีดออกมาเป็นคราบขาว
  • ขั้นตอนที่ 2: แบ่งผมเป็นช่อๆ
    ใช้นิ้วมือหรือหวีแสกผมออกเป็นส่วนๆ เพื่อให้สามารถฉีดสเปรย์เข้าถึงโคนผมและหนังศีรษะบริเวณที่มีความมันสะสมอยู่ได้โดยตรง เช่น บริเวณรอยแสกกลาง, กรอบหน้า, และกลางศีรษะ
  • ขั้นตอนที่ 3: ฉีดสเปรย์ในระยะที่เหมาะสม
    ถึอกระป๋องให้ห่างจากโคนผมประมาณ 15-30 เซนติเมตร หรือประมาณหนึ่งไม้บรรทัด การฉีดใกล้เกินไปจะทำให้สเปรย์กระจุกตัวอยู่แค่จุดเดียวและทิ้งคราบขาวไว้ได้ง่าย ให้ฉีดเป็นจังหวะสั้นๆ เน้นบริเวณโคนผมที่มันที่สุด
  • ขั้นตอนที่ 4: ทิ้งไว้สักครู่
    หลังจากฉีดสเปรย์จนทั่วแล้ว อย่าเพิ่งรีบขยี้หรือแปรงผมทันที! ควรทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาที ถึง 2 นาที เพื่อให้เนื้อผลิตภัณฑ์มีเวลาในการทำงานและดูดซับความมันบนเส้นผมได้อย่างเต็มที่
  • ขั้นตอนที่ 5: นวดด้วยปลายนิ้ว
    ใช้ปลายนิ้วมือนวดคลึงเบาๆ บริเวณหนังศีรษะและโคนผมที่ฉีดสเปรย์ไป การนวดจะช่วยกระจายผลิตภัณฑ์ให้ทั่วถึงและช่วยยกโคนผมให้มีวอลลุ่มมากขึ้นด้วย
  • ขั้นตอนที่ 6: แปรงผมเพื่อจัดทรง
    ใช้แปรงหรือหวี แปรงผมตั้งแต่โคนจรดปลายเพื่อกำจัดผลิตภัณฑ์ส่วนเกินและคราบแป้งที่อาจหลงเหลืออยู่ให้หมดไป จากนั้นก็จัดแต่งทรงผมได้ตามปกติ เพียงเท่านี้ผมของคุณก็จะกลับมาสะอาดสดชื่นและมีวอลลุ่มสวยงามแล้วค่ะ

เปิดกรุ! 10 Dry Shampoo ยี่ห้อไหนดี 2025 คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง!

ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย! เราได้ทำการรวบรวมและคัดเลือก 10 สุดยอด Dry Shampoo ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการคุมมัน, ความหอม, การเพิ่มวอลลุ่ม และความอ่อนโยน มาดูกันว่าจะมี Dry Shampoo ยี่ห้อไหนดี ที่ถูกใจคุณในปี 2025 นี้บ้าง

1. Batiste Dry Shampoo Original

หากพูดถึง Dry Shampoo จะไม่พูดถึง Batiste คงไม่ได้ เพราะเป็นแบรนด์ยอดฮิตติดลมบนที่ครองใจใครหลายคนทั่วโลก สำหรับสูตร Original Clean & Classic ถือเป็นไอเทมสามัญประจำบ้านที่ทุกคนควรมีติดไว้ ด้วยประสิทธิภาพการดูดซับความมันที่ทำได้อย่างรวดเร็วและยอดเยี่ยม เพียงแค่ฉีดไม่กี่ครั้ง ผมที่เคยมันเยิ้มก็กลับมาแห้งสบายและมีชีวิตชีวาขึ้นทันที จุดเด่นของรุ่นนี้คือกลิ่นหอมสะอาดสดชื่นแบบคลาสสิก ให้ความรู้สึกเหมือนเพิ่งสระผมมาใหม่ๆ เหมาะสำหรับทุกสภาพผม ใช้งานง่าย ไม่ทิ้งคราบขาวกวนใจหากใช้อย่างถูกวิธี ถือเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเข้าวงการดรายแชมพูหรือต้องการผลิตภัณฑ์ที่ไว้ใจได้ในวันเร่งรีบ ในราคาที่จับต้องได้และหาซื้อง่าย

คุณสมบัติเด่น

  • ดูดซับความมันได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  • กลิ่นหอมสะอาดสดชื่นแบบคลาสสิก
  • ช่วยฟื้นฟูผมมันให้กลับมามีชีวิตชีวา
  • เหมาะสำหรับทุกสภาพผม
  • ใช้งานง่ายและหาซื้อสะดวก
  • ราคาเป็นมิตร

2. Klorane Dry Shampoo with Oat Milk

สำหรับสาวๆ ที่มีหนังศีรษะบอบบางแพ้ง่าย ต้องยกให้ Klorane สูตร Oat Milk เป็นที่หนึ่งในใจเลยค่ะ แบรนด์เวชสำอางจากฝรั่งเศสตัวนี้โดดเด่นด้วยความอ่อนโยนขั้นสุด โดยใช้สารสกัดจากนมข้าวโอ๊ตเป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งช่วยปลอบประโลมหนังศีรษะและคงความชุ่มชื้นไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ในขณะเดียวกันก็ยังทำหน้าที่ดูดซับความมันได้ดีไม่แพ้ใคร ด้วยส่วนผสมของแป้งข้าวเจ้าและข้าวโพดเนื้อละเอียดพิเศษ ทำให้ไม่ทิ้งคราบขาวและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เนื้อสเปรย์มีความบางเบา ฉีดแล้วให้ความรู้สึกสบายหนังศีรษะ พร้อมช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ผมดูหนานุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องใช้ดรายแชมพูบ่อยๆ และกังวลเรื่องการอุดตันหรืออาการแพ้

คุณสมบัติเด่น

  • สูตรอ่อนโยนพิเศษ เหมาะสำหรับหนังศีรษะบอบบางแพ้ง่าย
  • มีส่วนผสมของสารสกัดจากนมข้าวโอ๊ต ช่วยปลอบประโลมหนังศีรษะ
  • ปราศจากสารซัลเฟตและพาราเบน
  • ดูดซับความมันได้ดี พร้อมเพิ่มวอลลุ่มให้เส้นผม
  • สเปรย์เนื้อละเอียด ไม่ทิ้งคราบขาว
  • ได้รับการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง

3. Living Proof Perfect Hair Day (PhD) Dry Shampoo

ถ้าคุณกำลังมองหา Dry Shampoo ที่ให้ผลลัพธ์เหมือนการสระผมจริงๆ ต้องลอง Living Proof PhD เลยค่ะ ตัวนี้เป็นมากกว่าแค่การดูดซับน้ำมัน เพราะใช้เทคโนโลยีสิทธิบัตร Triple-Action Cleaning Technology ที่ไม่เพียงแต่ดูดซับความมัน เหงื่อ และกลิ่น แต่ยังช่วยทำความสะอาดเส้นผมได้อย่างหมดจด เมื่อแปรงผมออก ผงแป้งจะนำพาสิ่งสกปรกออกมาด้วย ทำให้ผมรู้สึกสะอาดและเบาสบายอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีโมเลกุลที่ช่วยสร้างเกราะป้องกันความชื้น ทำให้ผมหอมยาวนานตลอดวัน แม้ราคาจะสูงกว่าแบรนด์อื่น แต่คุณภาพและผลลัพธ์ที่ได้ก็คุ้มค่ากับการลงทุน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะอาดขั้นสุดและผมหอมติดทนนาน

คุณสมบัติเด่น

  • ใช้เทคโนโลยี Triple-Action Cleaning ที่ช่วยทำความสะอาดเส้นผม
  • ดูดซับทั้งน้ำมัน, เหงื่อ, และกลิ่นได้หมดจด
  • ให้ความรู้สึกสะอาดและเบาสบายเหมือนสระผมจริง
  • กลิ่นหอมสดชื่นติดทนนาน
  • ปราศจากซิลิโคน, ซัลเฟต, และพาราเบน
  • ช่วยให้ผมอยู่ทรงสวยได้นานขึ้น

4. OUAI Super Dry Shampoo

สายฝอที่รักในความหรูหราและผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงต้องรู้จักแบรนด์ OUAI ของ Jen Atkin แฮร์สไตลิสต์ชื่อดังของฮอลลีวูด สำหรับ Super Dry Shampoo รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับผมที่มันมากๆ โดยเฉพาะ ด้วยพลังการดูดซับความมันขั้นเทพจากแป้งข้าวเจ้าและแร่ธาตุภูเขาไฟ (Volcanic Minerals) สามารถเปลี่ยนผมที่มันเยิ้มให้กลับมาแมตต์และมีวอลลุ่มได้ในทันที จุดเด่นอีกอย่างคือกลิ่น Melrose Place อันเป็นเอกลักษณ์ ที่หอมหรูหราแบบกุหลาบและลิ้นจี่ ติดทนจนคนทัก นอกจากจะคุมมันได้ดีเยี่ยมแล้วยังช่วยดีท็อกซ์หนังศีรษะจากสิ่งสกปรกตกค้างอีกด้วย เหมาะสำหรับคนผมมันมาก หรือวันที่ต้องการกู้ผมแบบเร่งด่วนที่สุด

คุณสมบัติเด่น

  • พลังการดูดซับความมันสูงเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับผมมันมาก
  • มีส่วนผสมของแร่ธาตุภูเขาไฟช่วยดีท็อกซ์หนังศีรษะ
  • เพิ่มวอลลุ่มและเท็กซ์เจอร์ให้เส้นผมได้อย่างน่าทึ่ง
  • กลิ่นหอมหรูหรา Melrose Place ติดทนนาน
  • ไม่ทดลองกับสัตว์ (Cruelty-Free)
  • ปราศจากพาราเบนและซัลเฟต

5. Percy & Reed Turn Up The Volume Volumising Dry Shampoo

สำหรับสาวผมลีบแบนที่ฝันอยากมีผมพองสวยเหมือนออกจากซาลอน Percy & Reed จากลอนดอนขวดนี้คือคำตอบค่ะ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “Turn Up The Volume” ความสามารถหลักของเขาคือการเพิ่มวอลลุ่มให้ผมแบบสุดพลัง ด้วยสูตรพิเศษที่เนื้อเบามาก ฉีดแล้วไม่รู้สึกหนักผม แต่กลับช่วยยกโคนผมให้ตั้งขึ้นและสร้างเท็กซ์เจอร์ให้เส้นผมดูหนา มีมิติอย่างเห็นได้ชัด ในขณะเดียวกันก็ยังทำหน้าที่ดูดซับความมันได้ดี ทำให้ผมดูสดชื่น ไม่ลีบแบนติดหนังศีรษะ เหมาะมากสำหรับใช้ก่อนจัดแต่งทรงผม หรือในวันที่ต้องการให้ผมดูมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ช่างผมหลายคนแนะนำ

คุณสมบัติเด่น

  • เชี่ยวชาญด้านการเพิ่มวอลลุ่มให้ผมดูหนาพองสวย
  • สเปรย์เนื้อบางเบา ไม่ทำให้ผมหนักหรือแข็งกระด้าง
  • ช่วยยกโคนผมและสร้างเท็กซ์เจอร์
  • ดูดซับความมันได้ดี ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • กลิ่นหอมอ่อนๆ สไตล์ซาลอน
  • สูตรโปร่งแสง ไม่ทิ้งคราบขาว

6. TRESemmé Volumizing Dry Shampoo

แบรนด์โปรเฟสชั่นแนลที่หาซื้อง่ายและราคาน่ารักอย่าง TRESemmé ก็มีดรายแชมพูที่คุณภาพไม่ธรรมดาเช่นกัน สำหรับสูตร Volumizing นี้ถูกใจคนผมมันและลีบแบนอย่างแน่นอน เพราะผสานคุณสมบัติการคุมมันจากแร่ดินเหนียวธรรมชาติ (Natural Clay) และซิตรัส เข้ากับการช่วยยกโคนผมให้มีวอลลุ่มสวยเด้ง เนื้อสเปรย์ละเอียด ไม่ทิ้งคราบขาวที่น่ารำคาญใจ ช่วยขจัดความมันส่วนเกินได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผมที่ดูอ่อนล้ากลับมาสดใส เบาสบาย และจัดทรงง่ายขึ้นในทันที ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าคุ้มราคา ให้ผลลัพธ์ดีเกินคาด เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือใครที่มองหาดรายแชมพูคุณภาพดีในงบประหยัด

คุณสมบัติเด่น

  • ผสานคุณสมบัติคุมมันและเพิ่มวอลลุ่มในขวดเดียว
  • มีส่วนผสมของแร่ดินเหนียวธรรมชาติและซิตรัส
  • ช่วยให้ผมเบาสบาย ไม่ลีบแบน
  • ราคาประหยัดและหาซื้อง่าย
  • กลิ่นหอมสดชื่น
  • ไม่ทิ้งสารตกค้างที่ทำให้ผมเสีย

7. Lolane Z-Cool Dry Shampoo Fruity Pop

มาที่แบรนด์ไทยคุณภาพเยี่ยมอย่าง Lolane กันบ้าง กับ Z-Cool Dry Shampoo ที่ออกมาหลายกลิ่นให้เลือก แต่กลิ่น Fruity Pop นี้ได้รับความนิยมเป็นพิเศษเพราะความหอมหวานสดใสของผลไม้ที่ช่วยกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์บนเส้นผมได้เป็นอย่างดี รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Nano Silver ที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดแบคทีเรียบนหนังศีรษะ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของกลิ่นอับและความมัน ส่วนผสมหลักอย่างแป้งข้าวโพด (Corn Starch) ก็ช่วยดูดซับความมันได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผมกลับมาแห้งสบายและมีวอลลุ่มขึ้นเล็กน้อย ที่สำคัญคือเป็นแบรนด์ที่เข้าใจสภาพอากาศเมืองไทย ทำให้คุมมันได้ดีในระดับที่น่าพอใจและมีราคาที่เป็นมิตรต่อกระเป๋าสตางค์สุดๆ

คุณสมบัติเด่น

  • มีเทคโนโลยี Nano Silver ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย
  • กลิ่นหอมฟรุตตี้สดใส ช่วยลดกลิ่นอับ
  • ดูดซับความมันได้รวดเร็วด้วยสารสกัดจากแป้งข้าวโพด
  • ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้เส้นผม
  • ราคาถูกและหาซื้อง่ายมาก
  • พัฒนามาเพื่อสภาพอากาศของประเทศไทย

8. Amika Perk Up Dry Shampoo

พบกับดรายแชมพูขวัญใจสายบิวตี้บล็อกเกอร์กับ Amika Perk Up ที่มาในแพ็คเกจจิ้งสีสันสดใสสะดุดตา แต่คุณภาพข้างในนั้นจริงจังกว่าที่เห็น! จุดเด่นของ Amika คือเป็นสูตรที่ปราศจากทัลคัม (Talc-Free) และอลูมิเนียม (Aluminum-Free) โดยใช้แป้งข้าวเจ้าจากธรรมชาติเป็นส่วนผสมหลักในการดูดซับความมัน ทำให้มีความอ่อนโยนสูง ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขนบนหนังศีรษะ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของซีบัคธอร์น (Sea Buckthorn) ที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะไปในตัว เนื้อสเปรย์บางเบา ฉีดแล้วให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ทิ้งคราบขาวแม้บนผมสีเข้ม

คุณสมบัติเด่น

  • ปราศจากทัลคัม, อลูมิเนียม, ซัลเฟต และพาราเบน
  • ใช้แป้งข้าวเจ้าธรรมชาติในการดูดซับความมัน
  • มีส่วนผสมของซีบัคธอร์นช่วยบำรุงเส้นผม
  • อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
  • ไม่ทิ้งคราบขาว เหมาะสำหรับทุกสีผม
  • ผลิตภัณฑ์เป็น Vegan และ Cruelty-Free

9. IGK First Class Charcoal Detox Dry Shampoo

สำหรับวันที่ผมมันขั้นสุด หรือหลังออกกำลังกายมาหนักๆ ต้องการการทำความสะอาดแบบล้ำลึก IGK First Class คือคำตอบสุดท้ายของคุณ ดรายแชมพูตัวนี้ถูกขนานนามว่าเป็น “เฮฟวี่เวท” ในการจัดการความมัน ด้วยส่วนผสมทรงพลังอย่างผงชาร์โคล (Charcoal Powder) ที่ทำหน้าที่เหมือนแม่เหล็กดูดซับความมันและสิ่งสกปรกออกจากหนังศีรษะได้อย่างหมดจด พร้อมด้วยดินขาว (White Tea Powder) ที่ช่วยปลอบประโลมหนังศีรษะไปพร้อมกัน ให้ผลลัพธ์ที่สะอาดล้ำลึกและคุมมันได้ยาวนานเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับคนที่มีผมมันมากจริงๆ หรือต้องการรีเฟรชผมหลังผ่านกิจกรรมหนักๆ มา ช่วยให้ผมรู้สึกสะอาดและเบาสบายเหมือนได้สระผมใหม่

คุณสมบัติเด่น

  • มีส่วนผสมของผงชาร์โคล ช่วยดีท็อกซ์และทำความสะอาดล้ำลึก
  • ประสิทธิภาพการคุมมันสูงสุด เหมาะกับผมมันมากเป็นพิเศษ
  • ให้ความรู้สึกเย็นสบายหนังศีรษะ
  • ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดีเยี่ยม
  • ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานตลอดวัน
  • Vegan และ Cruelty-Free

10. Dove Volume & Fullness Dry Shampoo

ปิดท้ายด้วยแบรนด์ที่ทุกคนคุ้นเคยอย่าง Dove ที่โดดเด่นเรื่องการบำรุงเส้นผม ดรายแชมพูสูตร Volume & Fullness นี้ก็เช่นกัน นอกจากจะช่วยดูดซับความมันส่วนเกินได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังมีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยบำรุงไม่ให้ผมแห้งกระด้างหลังใช้ ทำให้เส้นผมยังคงความนุ่มสลวยและมีน้ำหนัก จุดเด่นของสูตรนี้คือการเพิ่มวอลลุ่มให้ผมที่ลีบแบนกลับมาดูหนานุ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้งในเวลาไม่กี่นาที ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายและคุณภาพที่ไว้ใจได้ตามมาตรฐานของ Dove จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ช่วยให้ผมหอมสะอาดและดูดีได้โดยไม่ต้องสระ

คุณสมบัติเด่น

  • ช่วยดูดซับความมันพร้อมบำรุงเส้นผมให้นุ่มนวล
  • เพิ่มวอลลุ่มให้ผมดูหนาและมีน้ำหนัก
  • ไม่ทำให้ผมแห้งกระด้างหลังใช้
  • กลิ่นหอมสะอาดเป็นเอกลักษณ์ของโดฟ
  • ราคาไม่แพงและหาซื้อง่าย
  • เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน

ตารางเปรียบเทียบ 10 Dry Shampoo ยี่ห้อไหนดี 2025

ยี่ห้อ (Brand) จุดเด่นที่สุด เหมาะกับสภาพผม ระดับการคุมมัน ราคาโดยประมาณ
1. Batiste Original คลาสสิก คุมมันดีเยี่ยม ราคาถูก ทุกสภาพผม สูง ฿
2. Klorane Oat Milk อ่อนโยนที่สุด สำหรับผิวแพ้ง่าย ผมแห้ง, หนังศีรษะแพ้ง่าย ปานกลาง ฿฿฿
3. Living Proof PhD ทำความสะอาดเหมือนสระจริง ทุกสภาพผม, คนที่ต้องการความสะอาดขั้นสุด สูงมาก ฿฿฿฿
4. OUAI Super Dry Shampoo คุมมันขั้นเทพ กลิ่นหรูหรา ผมมันมาก สูงที่สุด ฿฿฿฿
5. Percy & Reed Volume เพิ่มวอลลุ่มขั้นสุดยอด ผมลีบแบน, ผมเส้นเล็ก ปานกลาง ฿฿฿
6. TRESemmé Volumizing คุ้มค่า คุมมันและเพิ่มวอลลุ่ม ผมมัน, ผมลีบแบน สูง ฿
7. Lolane Z-Cool Fruity Pop ราคาถูก กลิ่นหอมฟรุตตี้ ทุกสภาพผม, นักเรียน/นักศึกษา ปานกลาง ฿
8. Amika Perk Up สูตรอ่อนโยน Talc-Free พร้อมบำรุง ทุกสภาพผม, หนังศีรษะแพ้ง่าย สูง ฿฿฿฿
9. IGK First Class ดีท็อกซ์ คุมมันล้ำลึก ผมมันมากเป็นพิเศษ สูงที่สุด ฿฿฿฿
10. Dove Volume & Fullness คุมมันพร้อมบำรุงผมนุ่ม ผมธรรมดาถึงมัน, ผมขาดวอลลุ่ม ปานกลาง-สูง ฿฿

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. Dry Shampoo ใช้ทุกวันได้ไหม?
ไม่แนะนำให้ใช้ทุกวันค่ะ แม้ดรายแชมพูจะเป็นตัวช่วยที่ดีในวันเร่งรีบ แต่ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะได้เหมือนการสระด้วยน้ำและแชมพูจริงๆ การใช้ติดต่อกันนานเกินไปอาจทำให้เกิดการสะสมของผลิตภัณฑ์, ความมัน, และสิ่งสกปรก ซึ่งอาจนำไปสู่การอุดตันของรูขุมขนและปัญหาสุขภาพหนังศีรษะอื่นๆ ได้ ควรใช้สลับกับการสระผมปกติ โดยแนะนำให้ใช้ติดต่อกันไม่เกิน 2-3 วันค่ะ

2. Dry Shampoo ทำให้ผมร่วงจริงหรือ?
โดยตัวผลิตภัณฑ์เองแล้ว Dry Shampoo ไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้ผมร่วง แต่พฤติกรรมการใช้ที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลได้ค่ะ เช่น การใช้บ่อยเกินไปจนเกิดการอุดตันที่รูขุมขนบนหนังศีรษะ ซึ่งไปขัดขวางการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ หรือการขยี้หนังศีรษะแรงเกินไปตอนใช้งาน ดังนั้น หากใช้อย่างถูกวิธีและสระผมทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องผมร่วงค่ะ

3. ควรใช้ Dry Shampoo ตอนผมแห้งหรือผมเปียก?
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “Dry Shampoo” ดังนั้นจึงต้องใช้กับ “ผมที่แห้งสนิท” เท่านั้นค่ะ การใช้บนผมที่เปียกหรือหมาดๆ จะทำให้แป้งในผลิตภัณฑ์จับตัวเป็นก้อนเหนียวๆ ไม่สามารถดูดซับความมันได้ และจะยิ่งทำให้ผมดูสกปรกและจัดทรงยากกว่าเดิม ควรรอให้ผมแห้งสนิทก่อนใช้งานเสมอเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

4. จะทำอย่างไรถ้าฉีด Dry Shampoo แล้วเป็นคราบขาว?
ปัญหานี้แก้ไขได้ง่ายๆ ค่ะ สาเหตุหลักมักมาจากการฉีดสเปรย์ใกล้โคนผมเกินไป หรือใช้ในปริมาณที่มากเกินไป วิธีแก้คือ 1) ฉีดให้ห่างจากโคนผมอย่างน้อย 15-30 ซม. 2) เขย่ากระป๋องให้ดีก่อนใช้ 3) ทิ้งไว้สักครู่แล้วใช้นิ้วนวดคลึงให้ทั่ว และ 4) ใช้แปรงผมแปรงเอาผลิตภัณฑ์ส่วนเกินออก หากยังมีคราบขาวอยู่ ลองใช้ผ้าขนหนูแห้งๆ ถูเบาๆ หรือใช้ลมเย็นจากไดร์เป่าผมช่วยเป่าไล่ก็ได้ค่ะ

บทสรุป

Dry Shampoo ถือเป็นไอเทมกู้ชีพสำหรับคนผมมันและคนที่ไม่มีเวลาได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน, เพิ่มวอลลุ่มให้ผมที่ลีบแบน, หรือมอบความหอมสดชื่นให้เส้นผมในเวลาอันรวดเร็ว จากการรีวิว 10 Dry Shampoo ยี่ห้อไหนดี 2025 ที่เรานำมาฝาก จะเห็นได้ว่าแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นและเหมาะกับสภาพผมที่แตกต่างกันไป หัวใจสำคัญคือการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสูตรคุมมันขั้นสุดสำหรับคนผมมันมาก, สูตรอ่อนโยนสำหรับหนังศีรษะแพ้ง่าย, หรือสูตรเพิ่มวอลลุ่มสำหรับคนผมลีบแบน soodd.com หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อดรายแชมพูคู่ใจขวดใหม่ได้ง่ายขึ้น เพื่อให้คุณมีผมสวยเป๊ะ มั่นใจ พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ค่ะ!

Image by: Kevin-sama
https://www.pexels.com/@kevin-sama-2152128897

The Digital Alchemist (นักเล่นแร่แปรธาตุดิจิทัล)
ผู้ถักทอเรื่องราวและประสบการณ์ผ่านผืนผ้าใบดิจิทัล The Digital Alchemist แห่ง Sooddd.com ไม่เพียงแต่รังสรรค์เนื้อหา แต่ยังปรุงแต่งแรงบันดาลใจ เปลี่ยนแปลงข้อมูลให้เป็นปัญญา และสร้างสรรค์โลกออนไลน์ที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ด้วยวิสัยทัศน์เฉียบคมและความมุ่งมั่นที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เขาคือผู้พลิกโฉมสิ่งธรรมดาให้กลายเป็นความพิเศษในทุกการคลิก